ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (30 มิ.ย.) หลังจากรัฐสภากรีซมีมติผ่านร่างกฎหมายรัดเข็มขัดฉบับที่ 2 เพื่อปูทางสู่การรับเงินกู้งวดใหม่จากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งความคืบหน้าดังกล่าวทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่ากรีซจะสามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ได้ นอกจากนี้ สกุลเงินยูโรยังได้แรงหนุนจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งหน้า เพื่อควบคุมเงินเฟ้อในยูโรโซน
ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้น 0.58% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.4517 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพุธที่ 1.4434 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ดีดตัวขึ้น 0.06% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.6073 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6063 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง 0.30% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 80.500 เยน จากระดับ 80.740 เยน แต่แข็งค่าขึ้น 0.65% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.8396 ฟรังค์ จากระดับ 0.8342 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้น 0.42% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0721 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0676 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์แข็งค่าขึ้น 0.19% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8267 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8251 ดอลลาร์สหรัฐ
นักลงทุนเข้าซื้อสกุลเงินยูโรอย่างหนาแน่น ซึ่งช่วยหนุนยูโรแข็งค่าขึ้นสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ หลังจากรัฐสภากรีซมีมติรับรองร่างกฎหมายรัดเข็มขัดระยะ 5 ปีฉบับที่ 2 ซึ่งร่างกฎหมายฉบับนี้มีการเพิ่มเติมรายละเอียดเกี่ยวกับการดำเนินมาตรการทางการคลัง และมีขึ้นเพียงวันเดียวหลังจากที่รัฐสภาได้ลงมติรับรองร่างกฎหมายรัดเข็มขัดฉบับแรกเมื่อวันพุธ ซึ่งอียูและอเอ็มเอฟกำหนดว่ากรีซจะต้องผ่านร่างกฎหมายทั้ง 2 ฉบับก่อนที่จะได้รับเงินเบิกจ่ายงวดที่ 5 มูลค่า 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์ (1.69 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเงินกู้มูลค่ารวม 1.10 แสนล้านยูโร (1.57 แสนล้านดอลลาร์) ที่อียูและไอเอ็มเอฟอนุมัติให้กับกรีซเมื่อเดือนพ.ค.ปีที่แล้ว
สกุลเงินยูโรได้แรงหนุนมากขึ้นเมื่อมีกระแสคาดการณ์ในวงกว้างว่า อีซีบีจะประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งหน้า หลังจากนายฌอง-คล้อด ทริเชต์ ประธานอีซีบีได้ออกมาแสดงความกังวลเกี่ยวกับปัญหาเงินเฟ้อในยูโรโซน โดยเมื่อวานนี้สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) เปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อเดือนมิ.ย.ในเขตยูโรโซนอยู่ที่ระดับ 2.7% สูงกว่าเป้าหมายของอีซีบีที่ระดับ 2% ทั้งนี้ นายทริเชต์ย้ำว่า อีซีบียังคงให้น้ำหนักกับการคุมเข้มนโยบายการเงิน แม้ยูโรโซนยังคงเผชิญวิกฤตหนี้อยู่ในขณะนี้ก็ตาม
ส่วนค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลงเนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐทำให้นักลงทุนหันไปถือครองสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงมากกว่าและให้อัตราผลตอบแทนสูงกว่า โดยสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เขตชิคาโกเปิดเผยว่า ดัชนีกิจกรรมภาคธุรกิจในเขตมิดเวสต์เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 61.1 จุด ซึ่งเป็นสถิติที่ดีกว่าในเดือนพ.ค.ที่ดัชนีหดตัวลงสู่ระดับ 56.6 จุด และยังสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 54 จุด
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในคืนนี้ตามเวลาไทย โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลค่าใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนพ.ค. และสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) จะเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตเดือนมิ.ย.