จีนเริ่มปรับลดภาษีนำเข้าสิ่งทอจาก 12% ลงเหลือ 6% ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมเป็นต้นไป ซึ่งคาดว่า จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อตลาดฝ้าย เนื่องจากอุปสงค์อาจลดลงในขณะที่อุปทานสิ่งทอเพิ่มสูงขึ้น
แกแล็กซี่ ฟิวเจอร์ส ระบุว่า ผลกระทบจากความเคลื่อนไหวครั้งนี้ยังอยู่ในวงจำกัด เนื่องจากการนำเข้าสิ่งทอต่อปีของจีนมีสัดส่วนเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับผลผลิตทั้งหมดในประเทศ โดยผลผลิตผ้าของจีนพุ่งทะลุ 10 หมื่นล้านเมตรในปี 2553 ในขณะที่มีปริมาณนำเข้าต่ำกว่า 200 ล้านเมตร
ปัจจัยพื้นฐานที่อ่อนแอและกระแสคาดการณ์ที่มีอยู่มากเกี่ยวกับพื้นที่ปลูกฝ้ายที่เพิ่มขึ้นในปี 2553-2555 เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ตลาดฝ้ายซบเซาอยู่ในขณะนี้
หลิว ซินเทียน หัวหน้ากองบรรณาธิการเว็บไซต์ PPI ซึ่งให้บริการข้อมูลสินค้าโภคภัณฑ์ที่สำคัญกล่าวว่า ผลกระทบจากการลดภาษีต่อตลาดฝ้ายจะมีความชัดเจนมากกว่าผลกระทบที่มีต่อตลาดน้ำมันเชื้อเพลิงและตลาดโลหะ เนื่องจากราคาฝ้ายมีช่วงการปรับฐานที่กว้างกว่าและระยะเวลาที่ยาวนานกว่าหลังจากที่ราคาได้พุ่งขึ้นในปีที่แล้ว
ด้านตลาดล่วงหน้า Hongyuan Futures ชี้ว่า การคุมเข้มด้านนโยบายการเงินอาจจะช่วยยับยั้งการดีดตัวของตลาดซื้อขายฝ้ายล่วงหน้าได้
ทั้งนี้ สัญญาซื้อขายฝ้ายงวดส่งมอบเดือนมกราคมในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์เจิ้งโจวร่วงลงเกือบ 5% เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา และจากนั้นได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยใน 3 วันต่อมา สำนักข่าวซินหัวรายงาน