นายวินัย วิทวัสการเวช อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า กรมได้ร่วมกับ เทสโก้ โลตัส จัดโครงการ “ตามเหรียญ คืนคลังหลวง" เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติ 84 พรรษา ราชาของแผ่นดิน ซึ่งเริ่มเปิดบริการให้ประชาชนนำเหรียญกษาปณ์มาแลกบัตรของขวัญเทสโก้ โลตัส อย่างเป็นทางการ ในวันที่ 1 ก.ค.54
โดยที่ผ่านมาพบว่าประชาชนมักไม่ค่อยนำเหรียญออกมาใช้ โดยเฉพาะเหรียญที่มีมูลค่าน้อย เช่น เหรียญห้าสิบสตางค์ และเหรียญสลึง ทำให้เหรียญหายไปจากระบบ กรมธนารักษ์จำเป็นต้องผลิตมาทดแทน ซึ่งต้นทุนการผลิตนั้นสูงกว่ามูลค่าหน้าเหรียญ และในแต่ละปีจะต้องใช้งบประมาณในการผลิตเหรียญกษาปณ์ ประมาณ 2,000-3,000 ล้านบาท จึงคาดหวังว่าโครงการนี้จะทำให้ประชาชนนำเหรียญที่เก็บออมไว้ ออกมาใช้จับจ่ายและแลกซื้อสินค้าในระบบเศรษฐกิจมากขึ้น ซึ่งน่าจะช่วยประหยัดงบประมาณแผ่นดิน ในการผลิตเหรียญได้ 10% หรือประมาณ 200 -300 ล้านบาท/ปี
“หากโครงการนำร่องประสบผลสำเร็จ ก็จะมีการขยายไปยังสาขาอื่น โครงการนี้เป็นโครงการที่ดี นอกจากจะช่วยประหยัดงบประมาณแผ่นดินและลดภาระให้กับรัฐบาลแล้ว ยังช่วยลดภาระของประชาชน และผู้ประกอบการ อีกทางหนึ่ง ซึ่งเป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย ที่สำคัญยังช่วยลดภาระโลกร้อนที่เกิดจากกระบวนการผลิตเหรียญอีกด้วย"
นายดามพ์ สุคนธทรัพย์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส เทสโก้ โลตัส กล่าวว่า โครงการ “ตามเหรียญ คืนคลังหลวง" จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ลูกค้าของเรา และประชาชนทั่วไป ร่ว มกันนำเหรียญกษาปณ์มาเพิ่มมูลค่า พร้อมจับจ่ายสินค้าอย่างสะดวกสบาย ที่เทสโก้ โลตัส เพื่อให้เกิดสภาพคล่องของการใช้เหรียญ ช่วยประหยัดงบประมาณแผ่นดิน ที่ใช้ในการผลิตเหรียญ และช่วยลดปัญหาภาวะโลกร้อนที่เกิดจากกระบวนการในการผลิตเหรียญ"
โดยลูกค้าของเทสโก้ โลตัส และประชาชนที่สนใจสามารถนำเหรียญทุกชนิดราคา ไม่ว่าจะเป็น 25 สตางค์ 50 สตางค์ 1 บาท 2 บาท, 5 บาท และ 10 บาท มาแลก ณ จุดบริการลูกค้าของเทสโก้ โลตัส ในสาขาที่ร่วมรายการ โดยเหรียญมูลค่า 95 บาท สามารถแลกเป็นบัตรของขวัญ มูลค่า 100 บาท สามารถแลกได้ 500 บาท /คน/วัน ซึ่งโครงการนี้เป็นโครงการที่ให้ประโยชน์ต่อทั้งภาครัฐและประชาชน จึงหวังว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากประชาชน
ทั้งนี้เทสโก้ โลตัส เปิดบริการให้ประชาชนนำเหรียญกษาปณ์ที่เก็บไว้มาแลกเป็นบัตรของขวัญ สาขาที่ร่วมรายการทั้ง 11 สาขา ได้แก่ สาขา ซีคอนสแควร์ , สาขาสุขุมวิท 50, สาขา ศรีนครินทร์, สาขาสุขาภิบาล 1, สาขาพระราม 4, สาขาลาดพร้าว, สาขาหาดใหญ่, สาขาขอนแก่น, สาขาภูเก็ต, สาขาหางดง (เชียงใหม่) และ สาขาคำเที่ยง (เชียงใหม่) ตั้งแต่วันที่ 1-31 ก.ค.54