นายอภิชาติ ลักษณะสิริศักดิ์ กรรมการ ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (AFET) และ กรรมการผู้จัดการ บริษัท คลาสสิคโกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เปิดเผยถึงนโยบายการควบรวมตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (AFET) กับตลาดอนุพันธ์แห่งประเทศไทย (TFEX) เข้าด้วยกัน ว่า หากควบรวมแล้วประสบความสำเร็จทั้งในแง่ Commercial และ Social ก็น่าจะเป็นสิ่งที่ดี
โดยภาพใหญ่ๆ การควบรวมเป็นสิ่งที่ดี เพราะประการแรก คือ ทั้ง 2 ตลาดดูแลโดยภาครัฐทั้งคู่ ซึ่งการรวมกันมองว่าเป็นเรื่องของ Economic of Scale ประหยัดงบประมาณ แต่กลับกันหากตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้ามีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการชี้นำราคาให้เกษตรกรได้รู้ราคาล่วงหน้าและวางแผนการผลิตให้สอดคล้องกับทิศทางราคา ขณะที่ TFEX เป็นเรื่องของ Commercial ล้วนๆ เป็นเรื่องของวอลุ่ม เป็นเรื่องของรายได้ ซึ่งอาจจะไม่ตอบโจทย์เรื่อง Price Discovery หรือ การช่วยเหลือเกษตรกรของเมืองไทย
"ส่วนตัวถ้ามองในมุม Commercial ล้วนๆ การควบรวมเป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้ามองเรื่อง Social การแยกกันอาจจะตอบโจทย์ได้มากกว่า ขึ้นอยู่กับนโยบายที่จะควบรวม แต่ถ้าควบรวมแล้วได้ทั้ง Commercial และ Social กระตุ้นการซื้อขาย สร้างวอลุ่ม โบรกเกอร์อยู่ได้ เกษตรกรก็ยังได้ใช้ประโยชน์"นายอภิชาติ กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
นายอภิชาติ กล่าวว่า ปัจจุบัน AFET เป็นที่ยอมรับของต่างประเทศมากขึ้น เริ่มเป็น Benchmark มีการใช้ราคายางของ AFET เป็นราคาอ้างอิง
อนึ่ง พรรคเพื่อไทยมีนโยบายจะควบรวมตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (AFET) กับตลาดอนุพันธ์แห่งประเทศไทย (TFEX) เข้าด้วยกัน เนื่องจากเป็นตลาดที่ซื้อขายสัญญาล่วงหน้า เพียงแต่อยู่ภายใต้การดูแลของคนละกระทรวง โดย AFET อยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงพาณิชย์ ขณะที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยดูแล TFEX
โดยตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (AFET) เริ่มทำการซื้อขายครั้งแรกเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2547 ในยุคที่พรรคไทยรักไทยเป็นรัฐบาล