ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ได้ปรับเพิ่มการประเมินเศรษฐกิจ 7 เขต จากทั้ง 9 เขตทั่วประเทศ ซึ่งถือเป็นอีกสัญญาณของการฟื้นตัวจากเหตุแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา ที่ทำให้การผลิตและการส่งอออกชะลอตัวลงอย่างมาก
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ธนาคารกลางได้ยกระดับการประเมินในเขตโตโฮกุ ซึ่งได้รับความเสียหายจากภัยพิบัติ รวมทั้งเขตโตคาอิ ซึ่งกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่หลายรายมีโรงงานอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว และยังได้ยกระดับการประเมินในอีก5 เขต ได้แก่ ฮอกไกโด โฮกุริกุ คันโต-โคชิเน็ตสึ, ชูโกกุ และคิวชู-โอกินาว่ ขณะที่ธนาคารกลางได้คงระดับการประเมินเขตคินกิและชิโกกุไว้
เขตพื้นที่ที่ได้รับการยกระดับการประเมินครั้งล่าสุดนี้ระบุว่า เศรษฐกิจในพื้นที่ฟื้นตัวขึ้นหลังจากที่ภาวะติดขัดด้านอุปทานเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น รวมทั้งความเชื่อมั่นภาคครัวเรือนและธุรกิจ หลังจากที่ธนาคารกลางได้แสดงความระมัดระวังในการประเมินเมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี ธนาคารกลางญี่ปุ่นเตือนว่า จังหวะของการฟื้นตัวในแต่ละพื้นที่นั้นแตกต่างกันไป โดยสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในโตโฮกุและพื้นที่ใกล้เคียงกับคันโต-โคชิเน็ตสึ ซึ่งข้องกับกรุงโตเกียวและจังหวัดที่ตั้งอยู่โดยรอบนั้น ยังคงอยู่ในระดับที่รุนแรง ส่วนในโตโฮกุนั้น กิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มเคลื่อนตัวอย่างมีเสถียรภาพอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ พื้นที่ในภูมิภาคเหล่านี้ยังคงได้รับผลกระทบจากภาวะขาดแคลนไฟฟ้า หลังจากที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิม่า ไดอิจิ ได้รับความเสียหายจากคลื่นสึนามิจนไม่สามารถฟื้นการผลิตบางส่วนได้
เขตคินกิ ซึ่งมีศูนย์กลางที่โอซาก้า และเขตชิโกกุนั้น เศรษฐกิจยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่วนใหญ่สามารถฟื้นตัวจากผลกระทบด้านลบจากเหตุแผ่นดินไหวได้
นายมาซาอากิ ชิรากาว่า ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่นกล่าวว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นยังคงเผชิญกับแรงกดดันด้านขาลง โดยเฉพาะในฝั่งการผลิตหลังจากที่เกิดแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิเมื่อเดือนมี.ค. แต่ก็มีการฟื้นตัวเป็นบางส่วน ขณะที่ภาวะติดขัดด้านอุปทานนั้นคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น ส่วนความเชื่อมั่นภาคครัวเรือนและธุรกิจดีขึ้นในระดับหนึ่ง การผลิตและความต้องการของเอกชนในประเทศนั้นก็ฟื้นตัวขึ้น