World Marketsสรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ข่าวต่างประเทศ Wednesday July 6, 2011 06:07 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (5 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการลุกลามของปัญหาหนี้ยุโรป หลังจากมูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของโปรโตเกสลงสู่ "ระดับขยะ" เพราะกังวลว่ารัฐบาลโปรตุเกสจะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายการลดยอดขาดดุลงบประมาณได้ อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ปรับตัวลงในกรอบที่จำกัด เพราะตลาดได้แรงหนุนจากรายงานที่ว่า ยอดสั่งซื้อของโรงงานอุตสาหกรรมในสหรัฐปรับตัวสูงขึ้นในเดือนพ.ค.

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 12.90 จุด หรือ 0.10% แตะที่ 12,569.87 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดลบ 1.79 จุด หรือ 0.13% แตะที่ 1,337.88 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 9.74 จุด หรือ 0.35% แตะที่ 2,825.77 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (5 ก.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากรายงานที่ระบุว่า ยอดสั่งซื้อของโรงงานอุตสาหกรรมในสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นในเดือนพ.ค. นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังดีดตัวขึ้นหลังจากนักวิเคราะห์ของบาร์เคลย์ส แคปิตอล ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ แม้หลายประเทศ รวมถึงสหรัฐ ได้ระบายน้ำมันออกจากคลังยุทธภัณฑ์สำรองเพื่อลดปัญหาอุปทานตึงตัวก็ตาม

สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือนส.ค.ปิดบวก 1.95 ดอลลาร์ หรือ 2.05% ปิดที่ 96.89 ดอลลาร์

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นกว่า 30 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (5 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาทองคำร่วงลงในช่วง 2 วันทำการที่ผ่านมา นอกจากนี้ กระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ของหลายประเทศในยุโรป รวมถึงกรีซ ยังกระตุ้นให้นักลงทุนแห่ซื้อทองเพื่อป้องกันความเสี่ยงอีกด้วย

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.พุ่งขึ้น 30.10 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 1,512.70 ดอลลาร์/ออนซ์

-- ค่าเงินยูโรร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (5 ก.ค.) หลังจากมูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของโปรโตเกสลงสู่ "ระดับขยะ" เพราะกังวลว่ารัฐบาลโปรตุเกสจะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายการลดยอดขาดดุลงบประมาณ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยน หลังจากมีรายงานว่ายอดสั่งซื้อของโรงงานอุตสาหกรรมในสหรัฐปรับตัวสูงขึ้นในเดือนพ.ค.

ค่าเงินยูโรร่วงลง 0.84% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.4415 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.4537 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ค่าเงินปอนด์ 1.6057 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6086 ดอลลาร์สหรัฐ (*หมายเหตุ: ที่ต้องเทียบกับระดับของวันศุกร์เพราะตลาดเงินนิวยอร์กปิดทำการในวันจันทร์ที่ 4 ก.ค. เนื่องในวันชาติสหรัฐ)

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น 0.37% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 81.060 เยน จากระดับ 80.760 เยน แต่ร่วงลง 0.87% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.8406 ฟรังค์ จากระดับ 0.8480 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนตัวลง 0.42% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0687 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0732 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ดิ่งลง 0.78% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8234 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8299 ดอลลาร์สหรัฐ

-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (5 ก.ค.) ขานรับรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ระบุว่า ยอดสั่งซื้อของโรงงานอุตสาหกรรมภายในประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้นแข็งแกร่งในเดือนพ.ค. ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเรื่องการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก อย่างไรก็ตาม ดัชนี FTSE 100 ขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยเนื่องจากบรรยากาศการซื้อขายโดยรวมได้รับแรงกดดันจากข่าวมูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของโปรตุเกสลงสู่ระดับขยะ

ดัชนี FTSE 100 ปิดบวก 6.49 จุด หรือ 0.1% แตะที่ 6,024.03 จุด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ