นายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ต้องการให้รัฐบาลใหม่โดยเฉพาะผู้ที่จะเข้ามารัฐมนตรีในกระทรวงพาณิชย์ แก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจให้กับประชาชน โดยเน้นลดปัญหาค่าครองชีพที่สูงขึ้น แก้ปัญหาราคาน้ำมันแพง และปัญหาเศรษฐกิจโลกที่ยังฟื้นตัวอย่างเปราะบาง ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพื่อให้เศรษฐกิจของไทยขับเคลื่อนต่อไปได้
สำหรับการดูแลภาคสินค้าเกษตรนั้น มีความเป็นห่วงการใช้นโยบายรับจำนำราคา จะทำให้เกิดการสวมสิทธิสินค้าเกษตรจากประเทศเพื่อนบ้านเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะข้าว เพราะสินค้าข้าวนั้นในประเทศเพื่อนบ้านมีราคาต่ำกว่าราคารับจำนำของไทย จึงอยากให้รัฐบาลใหม่ทบทวนข้อดีของระบบประกันราคามาใช้
สำหรับนโยบายไข่ไก่ชั่งกิโลกรัม ไม่ถือว่าเป็นความล้มเหลวของพรรคประชาธิปัตย์ เพราะการแก้ไขขณะนั้นได้หารือกับสหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ เพื่อแก้ไขปัญหาไข่ไก่ราคาแพง เมื่อตลาดส่วนใหญ่ไม่ยอมรับ ก็ยกเลิก และก็ไม่ได้สร้างความเสียหายต่ออุตสาหกรรมไข่ไก่
ขณะที่งานภายในกระทรวงพาณิชย์ที่ตนกำกับดูแลและอยากให้ผู้มาเป็นรัฐมนตรีใหม่สานต่อด้านนโยบายมี 5 ด้าน คือ 1.นโยบายการสร้างศักยภาพการค้าทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ 2.นโยบายเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันธุรกิจ 3.นโยบายพัฒนาผู้ประกอบการและธุรกิจSMEs 4.นโยบายส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์และทรัพย์สินทางปัญญา และ 5.นโยบายมุ่งสู่การรวมตัวเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) และเขตการค้าเสรี (FTA)
นอกจากนี้ ยังมีโครงการที่อยากฝากให้สานต่อ 10 โครงการ ได้แก่ โครงการเมกะโปรเจกต์ทวาย-กาญจนบุรี,โครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษแม่สอด, โครงการนิติบุคคลหมายเลขเดียว, โครงการแผนพัฒนาธุรกิจแห่งชาติ, โครงการเมืองสร้างสรรค์, โครงการสหกรณ์สร้างสรรค์, โครงการลิมอร์ ดาร์ซา, โครงการเตรียมความพร้อมสู่ AEC, โครงการสินเชื่อพิเศษเพื่อ SMEs และโครงการพัฒนาธุรกิจบิสเนสคลับ