ค่าเงินยูโรร่วงลงติดต่อกัน 2 วันทำการเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (6 ก.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ยุโรป หลังจากมูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของโปรตุเกสลงสู่ระดับขยะ นอกจากนี้ ข่าวจีนประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยยังส่งผลให้นักลงทุนเทขายสกุลเงินยูโรซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง และหันไปถือครองสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐซึ่งมีความปลอดภัยมากกว่า
ค่าเงินยูโรร่วงลง 0.77% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.4311 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันอังคารที่ 1.4422 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนตัวลง 0.40% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.5996 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6061 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง 0.21% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 80.900 เยน จากระดับ 81.070 เยน และร่วงลง 0.21% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.8392 ฟรังค์ จากระดับ 0.8410 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนตัวลง 0.05% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0685 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0690 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ขยับขึ้น 0.04% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8256 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8253 ดอลลาร์สหรัฐ
สกุลเงินยูโรร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่สอง เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการลุกลามของปัญหาหนี้ยุโรป มูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือพันธบัตรรัฐบาลระยะยาวของโปรตุเกสลง 4 ขั้น สู่ระดับ Ba2 หรือ "ระดับขยะ" จากระดับ Baa1 โดยระบุว่า มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นที่โปรตุเกสจะต้องระดมทุนเพื่อเสริมสถานะการคลังเป็นครั้งที่ 2 และคาดว่าโปรตุเกสอาจจะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายการลดยอดขาดดุลงบประมาณ เนื่องจากโปรตุเกสกำลังเผชิญกับความยากลำบากในการลดการใช้จ่าย การบังคับใช้มาตรการขึ้นภาษี และการบรรลุเป้าหมายการขยายตัวของเศรษฐกิจ
การประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของมูดีส์มีขึ้นหลังจาก ฟิทช์ เรทติ้งส์ และสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ได้ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของโปรตุเกสลงสู่ระดับ BBB- ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดของอันดับ investment-grade และสูงกว่าอันดับความน่าเชื่อครั้งล่าสุดของมูดีส์เพียง 2 ขั้น
นอกจากนี้ นักลงทุนยังเทขายสกุลเงินยูโรซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงและหันไปซื้อสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐซึ่งมีความปลอดภัยมากกว่า หลังจากธนาคารกลางจีนประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และดอกเบี้ยเงินฝากอีก 0.25% ซึ่งการตัดสินใจดังกล่าวทำให้นักลงทุนกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับเงินเยนและฟรังค์สวิส เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการเดือนมิ.ย.ของสหรัฐขยายตัวที่ระดับ 53.3 จุด ซึ่งชะลอตัวจากเดือนพ.ค.ที่ขยายตัวที่ระดับ 54.6 จุด และยังเป็นการขยายตัวน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 54 จุด
นักลงทุนจับตาดูการประชุมธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ในวันพฤหัสบดีที่ 7 ก.ค.นี้ โดยมีการคาดการณ์ว่า อีซีบีจะประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อในการประชุมครั้งนี้ หลังจากสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) เปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อเดือนมิ.ย.ในเขตยูโรโซนอยู่ที่ระดับ 2.7% สูงกว่าเป้าหมายของอีซีบีที่ระดับ 2%
ทางการสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ รวมถึงดัชนีภาคบริการเดือนมิ.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ตัวเลขสต็อกสินค้าภาคค้าส่งเดือนพ.ค. และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมิ.ย. โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า ตัวเลขจ้างงานเดือนมิ.ย.จะเพิ่มขึ้น 90,000 ราย และคาดว่าอัตราว่างงานเดือนมิ.ย.จะลดลงสู่ระดับ 9%