หนังสือพิมพ์อิโคโนมิค อินฟอร์เมชัน เดลี รายงานโดยอ้างความคิดเห็นของนักเศรษฐศาสตร์หลายคนในวันนี้ว่า มีความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางจีนจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 1 หรือ 2 ครั้งในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
นอกจากนี้ นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่า จีนอาจจะหยุดการปรับเพิ่มเพดานกันสำรองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธความเป็นไปได้ที่ว่าจีนจะปรับเพิ่มเพดาน RRR อีกในช่วงครึ่งของปีนี้ หากการไหลเข้าของเงินทุนต่างชาติปรับตัวสูงกว่าการคาดการณ์
ธนาคารกลางจีนประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยทั้งเงินฝากและเงินกู้ประเภท 1 ปีอีก 0.25% เมื่อวานนี้ โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้ (7 ก.ค.) เป็นต้นไป
สถาบันการเงินหลายแห่งเชื่อว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งล่าสุดนี้สะท้อนให้เห็นว่า ธนาคารกลางจีนมีความตั้งใจที่จะควบคุมเงินเฟ้อ และการปรับขึ้นดอกเบี้ยก็สอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด
นายหลู เจิ้งเหว่ย นักเศรษฐศาสตร์จากอินดัสเทรียล แบงก์กล่าวว่า จีนอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 1 หรือ 2 ครั้งภายในปีนี้ เพราะมองว่าอัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับสูง แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยจะมีขึ้นในช่วงเวลาใด
ขณะที่นายหลี่ ฮุยหยง จากบริษัทหลักทรัพย์เซินยิน แอนด์ หวังกั๋ว กล่าวว่า จีนอาจจะชะลอจังหวะเวลาในการใช้มาตรการคุมเข้มด้านการเงินในช่วงครึ่งหลังขอปีนี้ และคาดว่าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1 ครั้งในช่วงครึ่งหลังของปี
ด้านบริษัทหลักทรัพย์กั๋วไท่ แอนด์ จูหนาน คาดว่า จีนจะปรับเพิ่มเพดาน RRR อีก ขณะเดียวกันคาดว่ากระแสเงินทุนที่ไหลเข้าสู่จีนในเดือนก.ค.นั้นอาจจะอยู่ที่ 3.70 หมื่นล้านหยวน ลดลงจากเดือนมิ.ย. นอกจากนี้ บริษัทโบรกเกอร์รายนี้ระบุว่า จีนจะใช้วิธีการดำเนินการในตลาดเปิดเป็นเครื่องมือหลักในการดูดซับเงินทุนออกจากตลาด สำนักข่าวซินหัวรายงาน