อาเซียน-จีน เตรียมลงนามเปิดเสรีบริการเฟส 2 ส.ค.นี้ คาดธุรกิจบริการไทยทั้งกฎหมาย บัญชี สถาปัตยกรรม สื่อสาร ก่อสร้าง การศึกษา การเงินท่องเที่ยว รุกเจาะตลาดจีนเพิ่มขึ้นแน่นอน พร้อมเร่งเปิดเสรีบริการและลงทุนกับอินเดีย
นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวถึงความคืบหน้าการเจรจาการค้าเสรี(เอฟทีเอ) ในกรอบอาเซียนกับประเทศคู่เจรจาว่า ในส่วนของเอฟทีเออาเซียน-จีน ทั้ง 2 ฝ่ายได้เห็นชอบร่างพิธีสารเพื่อแก้ไขความตกลงด้านการค้าบริการ และจะลงนามร่วมกันในการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน-จีน ครั้งที่ 10 ในเดือน ส.ค.นี้ ที่ประเทศอินโดนีเซีย โดยจะมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.55 เป็นต้นไป
ทั้งนี้จะช่วยให้การค้าเสรีในภาคบริการครอบคลุมสาขาบริการที่เพิ่มมากขึ้นจากการเปิดเสรีภาคบริการไปแล้วบางสาขาก่อนหน้านี้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อนักธุรกิจไทยที่สนใจไปประกอบธุรกิจบริการในจีน เช่น บริการด้านวิชาชีพ กฎหมาย บัญชี สถาปัตยกรรม วิศวกรรม ภูมิสถาปัตยกรรม การสื่อสาร บริการก่อสร้างและวิศวกรรมที่เกี่ยวข้อง บริการจัดจำหน่าย บริการทางการศึกษา บริการสิ่งแวดล้อม บริการด้านการเงิน บริการด้านท่องเที่ยวและที่เกี่ยวข้องกับการเดินทาง และบริการขนส่ง เป็นต้น
สำหรับเอฟทีเออาเซียน-อินเดีย ล่าสุดยังไม่สามารถสรุปการเจรจาในภาคบริการและการลงทุนได้ แม้ทั้ง 2 ฝ่ายต้องการให้การเจรจามีความคืบหน้า โดยกำหนดให้มีการจัดประชุมร่วมกันอีกครั้ง เพื่อได้ให้ข้อสรุปราวเดือน พ.ย.นี้ ส่วนเอฟทีเออาเซียน-ญี่ปุ่น ในส่วนความคืบหน้าการเจรจาด้านการค้าบริการและการลงทุนนั้น ทั้ง 2 ฝ่ายมีเป้าหมายสรุปผลการเจรจาภายในปีหน้า
อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า ส่วนเอฟทีเออาเซียน-เกาหลีใต้ ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงที่จะจัดทำเว็บไซต์ www.akfta.net เพื่อเป็นแหล่งข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับการเปิดเสรีอาเซียน-เกาหลี ให้มีความทันสมัย และมีข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญๆ
อย่างไรก็ตาม อาเซียนยังได้หารือกับรัสเซีย โดยได้ตกลงที่จะจัดทำแผนความร่วมมือทางเศรษฐกิจในสาขาที่อาเซียนและรัสเซียสนใจร่วมกัน เพื่อขจัดอุปสรรคทางการค้า โดยกำหนดให้แล้วเสร็จภายในเดือน พ.ย.นี้ เพื่อให้ที่ประชุมสุดยอดอาเซียนได้พิจารณาเห็นชอบในเดือนเดียวกัน