ผู้ว่า ธปท.ปัดให้ความเห็น"บาทแข็งสู้เงินเฟ้อ" ย้ำหน้าที่ดูแลความผันผวน

ข่าวเศรษฐกิจ Friday July 8, 2011 09:19 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ปฎิเสธให้ความเห็นเกี่ยวกับแนวทางของรัฐบาลใหม่ที่สนับสนุนการใช้เงินบาทแข็งสู้เงินเฟ้อ โดยกล่าวว่าการให้ความเห็นในเรื่องนี้จะกระทบต่อการซื้อขายเงินตราต่างประเทศ แต่ธปท.มีหน้าที่ในการดูแลค่าเงินบาทไห้ผันผวนเพื่อช่วยการแข่งขันของประเทศ และยังใช้โยบายอัตราแลกเปลี่ยนแบบลอยตัวแบบมีการจัดการ

ส่วนนโยบายต่างๆ ของว่าที่รัฐบาลชุดใหม่ เช่น การยกเลิกจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน การขึ้นค่าแรงงานขั้นต่ำเป็น 300 บาท ที่ยังเป็นนโยบายที่ยังไม่ชัดเจน ที่ยังไม่เป็นทางการ ดังนั้นขอให้รอการจัดตั้งรัฐบาลให้แล้วเสร็จและมีการเสนอแผนบริหารราชการแผ่นดินก่อน

"การเมืองหลังการเลือกตั้ง มีทิศทางในทางบวก ทำให้คลายความกังวล ส่วนจะมีข้อเสนอต่อรัฐบาลใหม่อย่างไร ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาที่จะเสนอ" ผู้ว่า ธปท. กล่าวเมื่อคืนนี้

อย่างไรก็ตาม หลังการเลือกตั้งผ่านพ้นไปด้วยดี สถานการณ์เป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยผลการเลือกตั้งออกมามีความชัดเจน และผู้นำพรรคการเมืองใหญ่ 2 พรรคต่างยอมรับ ถือว่าเป็นปัจจัยบวกต่อภาพรวมของประเทศ แต่ยังมีปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ที่ต้องติดตามเกี่ยวกับการทำตามสัญญาของพรรคการเมืองที่รับปากประชาชนช่วงหาเสียงจะนำไปสู่การปฎิบัติในขอบเขตได้อย่างไร ซึ่งจะนำไปสู่การจัดทำแผนบริหารราชการแผ่นดิน

"หลังการเมืองชัดเจนแล้ว บริษัทเครดิตเรทติ้งต่างๆจะปรับเครดิตเราหรือไม่นั้น ส่วนใหญ่บริษัทเครดิตเรทติ้งจะดูความสามารถด้านเครดิตของเรา ดูภาระการคลัง หากไม่เป็นภาระมากก็คงไม่น่ากระทบ แต่หลังเลือกตั้งแล้วมองว่าน่าจะเป็นปัจจัยบวก ไม่น่าเป็นห่วง" นายประสาร กล่าว

สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจช่วงครึ่งปีหลัง มองว่ายังมีความเสี่ยงจากปัจจัยต่างประเทศ ทั้งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ยุโรป ที่ยังอ่อนแอ แต่ปัจจัยในประเทศมองว่ายังไปได้ดี แต่ก็มีความเสี่ยงจากการแร่งตัวของเงินเฟ้อที่เป็นผลจากราคาน้ำมัน ราคาอาหารที่ยังทรงตัวในระดับสูง แต่ ธปท.ยังคงเป้าหมายการเติบโตของเศรษฐกิจไทยปีนี้ที่ 4.1%

ด้านนายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ (BBL) กล่าวว่า รัฐบาลใหม่ที่จะเป็นเสียงข้างมากที่ทำให้เห็นถึงเสถียรภาพถือเป็นเรื่องที่ดี ทำให้เกิดการลงทุนและมีผลต่อเศรษฐกิจในระยะยาว ซึ่งในส่วนของธนาคารน่าจะมีผลให้สามารถปล่อยสินเชื่อได้เพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง

ส่วนโยบายของรัฐบาลใหม่เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อภาพรวมและทำให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นมากขึ้น แม้นโยบายบางเรื่อง เช่นการปรับขึ้นค่าแรงงานขั้นต่ำจะทำให้ผู้ประกอบการมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น แต่ผู้ประกอบการต้องใช้เวลาปรับตัวและจะเกิดประโยชน์ในระยะยาว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ