นายนิวัฒน์ กาญจนภูมินทร์ กรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย กล่าวว่า มูลค่าการออกหุ้นกู้ของภาคเอกชนในปี 54 คาดว่าจะมีวงเงินประมาณ 2.5 แสนล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการณ์ณเดิมที่คาดไว้ 3 แสนล้านบาท โดยช่วงครึ่งปีแรกของปี 54 ภาคเอกชนออกหุ้นกู้ไปแล้วประมาณ 1.1 แสนล้านบาท ลดลง 29% จากช่วงครึ่งแรกของปี 53
เนื่องจากหลายบริษัทได้มีการเร่งระดมทุนด้วยการออกหุ้นกู้ไปตั้งแต่ช่วงปลายปี 53 เพื่อลดความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นในปีนี้ ประกอบกับ บริษัทเอกชนได้หันไประดมทุนด้วยการออกตราสารหนี้ระยะสั้นภาคเอกชน(Commercial Paper: CP)แทน โดยช่วงครึ่งปีแรกของไปแล้วถึง 5.9 แสนล้านบาท เพื่อมขึ้น 92% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ด้านนายบัณฑิต นิจถาวร ประธานกรรมการ สมาคมตราสารหนี้ไทย กล่าวว่า แนวโน้มตลาดตราสารหนี้ไทยในช่วงครึ่งหลังของปี 54 จะยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ตามภาวะเศรษฐกิจไทยที่ยังคงเติบโต การใช้จ่ายภายในประเทศทั้งของภาครัฐและเอกชนยังคงขยายตัว ส่วนปัญหาเรื่องการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกทั้งในสหรัฐฯและยุโรป ก็จะทำให้เม็ดเงินต่างชาติไหลเข้ามาในประเทศเกิดใหม่ที่กำลังพัฒนา โดยเฉพาะในเอเชีย ซึ่งประเทศไทยก็จะได้รับประโยชน์เช่นกัน
ช่วงครึ่งปีแรกนักลงทุนต่างชาติมีสถานะซื้อสุทธิต่อเนื่องในตลาดตราสารหนี้ไทย โดยมีมูลค่ารวมประมาณ 5 แสนล้านบาท แต่ถ้าพิจารณาเฉพาะการซื้อขายของนักลงทุนต่างประเทศในตราสารหนี้อายุมากกว่า 1 ปี พบว่ามีสถานะซื้อสุทธิถึง 5.4 หมื่นล้านบาท โดยมูลค่าการถือครองตราสารหนี้ของนักลงทุนต่างชาติ ณ สิ้นเดือน มิ.ย.อยู่ที่ 3.6 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 31% จาก ณ สิ้นปี 53 ที่ 2.8 แสนล้านบาท
และจากการสำรวจความคิดเห็นของผู้จัดการจัดจำหน่ายและผู้ค้าตราสารหนี้ คาดว่ามูลค่าคงค้างตราสารหนี้มีแนวโน้มเติบโตขึ้นต่อเนื่อง โดยคาดว่ามูลค่าคงค้างตราสารหนี้ ณ สิ้นปี 54 จะอยู่ที่ประมาณ 7.2 ล้านล้านบาท เติบโตประมาณ 7% จากมูลค่าคงค้างตราสารหนี้สิ้นปี 53 ที่ประมาณ 6.7 ล้านล้านบาท
นายบัณฑิต กล่าวถึง การที่ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นในสัปดาห์นี้ เกิดจากการไหลกลับเข้ามาของเงินทุนต่างชาติ ในส่วนของตลาดตราสารหนี้ช่วงสัปดาห์แรกของเดือน ก.ค.มีเงินทุนจากต่างชาติไหลกลับเข้ามาในประมาณ 3.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งก็สอดคล้องกับตลาดหุ้นและตลาดอื่นๆ