นางสิริพร หัสดิเสวี ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) เปิดเผยว่า โครงสร้างอัตราค่าไฟใหม่ ที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ประกาศใช้จะมีผลตั้งแต่ค่าไฟฟ้าในเดือนกรกฎาคม 2554 -2558 และจะปรากฏในบิลค่าไฟฟ้าของเดือนสิงหาคมนี้
สำหรับรูปแบบรายละเอียดของบิลค่าไฟฟ้าของการไฟฟ้า ทั้ง กฟน.และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.) ต้องรอฟังจาก ทาง กกพ. ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดรับฟังความคิดเห็นในเว็บไซต์ของ กกพ.ตั้งแต่วันที่ 6-12 ก.ค.นี้ โดยตามหลักการนี้ คือ โครงสร้างค่าไฟฟ้าฐานใหม่ จะมีการนำค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ(เอฟที)ของเดิมมารวม และจะยกเว้นการจัดเก็บค่าไฟฟ้าสำหรับผู้ที่ใช้ไฟฟ้าไม่ถึง 90 หน่วยมารวมด้วย
ด้านนายกวิน ทังสุพานิช เลขาธิการ สำนักงาน กกพ. กล่าวว่า ค่าไฟฟ้าฐานปัจจุบันเฉลี่ยอยู่ที่ 2.27 บาทต่อหน่วย เมื่อรวมกับเอฟทีปัจจุบันที่ 95.81 สตางค์/หน่วย ค่าไฟฟ้าฐานเฉลี่ยจะอยู่ที่ 3.23 บาท/หน่วย และเอฟที สำหรับเดือน ก.ค.-ส.ค.54 จะเท่ากับ ศูนย์
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการ กกพ.ได้มีมติให้ นำเงินที่เรียกคืนจาก 3 การไฟฟ้าที่ไม่มีการลงทุนจริง ในช่วงที่ผ่านมา 1,500 ล้านบาท จากวงเงินทั้งหมด 6,900 ล้านบาท มาหักจาก ค่าไฟฟ้า 2 เดือนนี้ เท่ากับ 6 สตางค์/หน่วย
ส่วนวงเงินที่เหลืออีก 5,400 ล้านบาท จะนำไปหักในค่าไฟฟ้าเอฟทีงวดถัดไป คือ ก.ย.-ธ.ค.54 ทำให้ค่าไฟฟ้าลดลงได้ 6 สตางค์/หน่วย ซึ่งรวมไปถึงเม็ดเงินที่รับภาระของผู้ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 90 หน่วย ก็คือ ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมขนาดกลาง-ขนาดใหญ่ที่ จะรับภาระประมาณ 12 สตางค์/หน่วย ก็จะลดลง 6 สตางค์เช่นกัน