รายงานข่าวจากธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ได้จัดทำบทความเรื่อง “Basel III : หลักเกณฑ์การกำกับดูแลสถาบันการเงินภายหลังวิกฤติการณ์เงินโลก"เผยแพร่เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ธปท.ศึกษาผลกระทบเชิงปริมาณ(Quantitative Impact Study หรือ QIS) ของ Basel III ต่อระบบธนาคารพาณิชย์ไทยในเบื้องต้น โดยใช้ข้อมูลทางการเงิน ณ เดือน ธ.ค.52 สรุปได้ว่าในด้านการดำรงเงินกองทุนถือว่ากระทบไม่มากนักทั้งในแง่ของธนาคารพาณิชย์และกลุ่มของธนาคารพาณิชย์
ทั้งนี้ เนื่องจากโครงสร้างเงินกองทุนของธนาคารพาณิชย์ไทย มีหุ้นสามัญและกำไรสะสมเป็นองค์ประกอบหลัก จึงไม่กระทบต่ออัตราส่วนเงินกองทุน CE ration ที่ Basel III กำหนดขึ้นมาใหม่ ประกอบกับอัตราส่วนเงินกองทุน CE ration, Tier1 ration และ Total capital มีค่าเฉลี่ยสูงกว่าอัตราส่วนขั้นต่ำที่ Basel III กำหนดไว้
หลักเกณฑ์การบริหารความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง จากผล QIS พบว่า ธนาคารพาณิชย์ไทยมีมาตรฐานที่ใช้วัดความเสี่ยงด้านสภาพคล่องทั้งในส่วนของ Liquidity Coverage Ratio(LCR) และ Net Stable Funding Ratio(NSFR) โดยเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำของ Basel III
อย่างไรก็ตามแม้ว่าอัตราส่วนเฉลี่ยของระบบธนาคารพาณิชย์ไทยจะสูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำที่ Basel Committee on Banking Supervision(BCBS) กำหนด แต่ธนาคารพาณิชย์บางแห่งอาจจำเป็นต้องปรับฐานสภาพคล่องเพื่อให้สอดคล้องตามเกณฑ์ดังกล่าว
นอกจากนี้ ธปท.อยู่ระหว่างศึกษาผลกระทบของหลักเกณฑ์ Basel III ต่อธนาคารพาณิชย์ไทยและสาขาธนาคารต่างประเทศ โดยจัดทำ QIS ด้านเงินกองทุนและความเสี่ยงด้านสภาพคล่องตามหลักเกณฑ์ฉบับสมบูรณ์ในช่วงไตรมาส 2/54
ส่วนการเตรียมความพร้อมในระยะต่อไปนั้น ในส่วนการบังคับใช้เกณฑ์ Basel III ในประเทศไทย จำเป็นต้องพิจารณาประเด็นผลกระทบต่างๆ เพิ่มเติม เช่น ผลกระทบต่อการทำหน้าที่ตัวกลางของสถาบันการเงิน หรือผลกระทบต่อธุรกรรมบางประเภท เช่น Trade Finance เป็นต้น ตลอดจนมีการเตรียมความพร้อมโดยอาศัยการประสานงานกันที่ดีระหว่าง ธปท. และ สถาบันการเงิน ตามบทบาทหน้าที่ ซึ่ง ธปท. มีแผนดำเนินการเอาไว้
สำหรับแผนดำเนินการของธปท. ได้แก่ 1.การสื่อสารทำความเข้าใจแก่ผู้เกี่ยวข้องทั้งภายในและภายนอก ธปท. โดยการจัดประชุมชี้แจงการจัดทำบทความเผยแพร่ และการสื่อแนวนโยบายของธปท. รวมทั้งการประชุมหารือกับสถาบันการเงินผ่านชมรม Basel และ 2.ศึกษาผลกระทบ Basel III ต่อระบบสถาบันการเงินไทยโดยการประเมินผลกระทบของเกณฑ์ดังกล่าวที่มีต่อธนาคารพาณิชย์อีกครั้ง ก่อนนำผลศึกษามาใช้ประกอบการพิจารณากำหนดนโยบายที่เหมาะสมต่อไป
ส่วนแผนงานที่ 3. คือ การออกประกาศหลักเกณฑ์ Basel III โดย ธปท. จะนำประเด็นที่ BCBS มีข้อสรุปชัดเจนประกอบกับผลจากการจัดทำ QIS มาพิจารณาความเหมาะสมก่อนออกประกาศหลักเกณฑ์ด้านเงินกองทุนและด้านสภาพคล่องต่อไป ทั้งนี้สำหรับประเด็นที่ยังไม่มีข้อสรุปจาก BCBS นั้น ธปท. จะติดตามและนำมาพิจารณาหาข้อสรุปต่อไป