ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐ และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐสภาสหรัฐ จะจัดประชุมอีกครั้งในวันนี้ เพื่อหารือกันเกี่ยวกับการปรับเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลกลางสหรัฐ และลดยอดขาดดุลงบประมาณ เพื่อให้สหรัฐรอดพ้นจากการผิดนัดชำระหนี้
กระทรวงการคลังระบุว่าสหรัฐอาจจะผิดนัดชำระหนี้หากรัฐสภาไม่ปรับเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลกลางซึ่งปัจจุบันยืนอยู่ที่ระดับ 14.29 ล้านล้านดอลลาร์ ภายในวันที่ 2 ส.ค.นี้ โดยประธานาธิบดีโอบามาได้จัดการประชุมร่วมกับผู้นำรัฐสภาสหรัฐเป็นเวลา 3 ครั้งแล้ว เพื่อหารือกันเกี่ยวกับการเพิ่มเพดานหนี้ แต่จนถึงขณะนี้ทั้ง 2 ฝ่ายก็ยังไม่สามารถตกลงกันได้
ประธานาธิบดีโอบามากล่าวว่า ความไม่แน่นอนที่ว่ารัฐสภาสหรัฐจะอนุมัติการเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลหรือไม่นั้น เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ภาคเอกชนลังเลที่จะเพิ่มการจ้างงาน และทำให้อัตราว่างงานเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือนที่ 9.2%
ขณะที่นางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เตือนว่า สหรัฐกำลังตกอยู่ในความเสี่ยงที่จะผิดนัดชำระหนี้ หากรัฐสภาไม่เพิ่มเพดานหนี้ได้ทันเวลา
นอกจากนี้ ไอเอ็มเอฟยังได้เรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐแก้ไขความขัดแย้งอันยาวนานที่มีกับรัฐสภาสหรัฐในเรื่องการปรับเพิ่มเพดานหนี้ โดยระบุว่าหากรัฐบาลไม่สามารถแก้ปัญหาดังกล่าวได้ก็อาจจะส่งผลกระทบเศรษฐกิจภายในประเทศอย่างร้ายแรง
ไอเอ็มเอฟระบุว่า สถานะด้านการคลังที่ย่ำแย่ของสหรัฐและการไม่ปรับเพิ่มเพดานหนี้อาจนำไปสู่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หรืออาจจะถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ สำนักข่าวซินหัวรายงาน