น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่ผู้ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่านโยบายของพรรคเพื่อไทยในทุกด้านได้คำนึงถึงผลกระทบอย่างรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อ หรือแหล่งที่มาของรายได้ โดยยังไม่ขอลงรายละเอียดเพราะประเด็นเรื่องการเงินเป็นประเด็นที่อ่อนไหวต่อภาพรวม หลังจากมีการวิพากวิจารณ์จากสำนักข่าวต่างประเทศออกมาวิเคราะห์ว่าระบบทักษิโนมิคจะกลับมา เพราะเป็นนโยบายขายฝันอาจจะทำให้เกิดเงินเฟ้อได้
“ทุกอย่างเราวางไว้และต้องหาทางออกให้กับทุกด้าน ทั้งในเรื่องอนาคตข้างหน้าเงินเฟ้อจะเป็นอย่างไร การสร้างรายได้จะเป็นอย่างไร ขอเป็นภาพรวมดีกว่า ถ้าเราคุยกันทีละจุดเกรงว่าจะเป็นห่วงในเรื่องของความอ่อนไหว"น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว
สำหรับกรณีพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์เรื่องนโยบาย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยอมรับว่าได้มีการพูดคุยตามปกติตามประสาพี่น้อง และถือว่า พ.ต.ท.ทักษิณก็มีประสบการณ์ ซึ่งก็มีคำแนะนำ แต่พรรคก็ต้องทำหน้าที่ในการออกนโยบาย
นอกจากนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ระบุถึงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้องเป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ มีความรู้ด้านกฎหมายที่ดี และเป็นบุคคลที่ได้รับการยอมรับ โดยไม่ได้ระบุว่าคนที่มีความเหมาะสมควรมาจากบุคคลที่เคยทำหน้าที่ในตำแหน่งนี้หรือไม่
"ยังไม่ทราบ ใจเย็นๆ ก่อนจะดีกว่า เราคงเลือกคนที่เคยทำงานและทำงานได้ เราจะขอชี้แจงอีกครั้งภายหลังกกต.รับรองผลจะดีกว่า...ต้องเป็นผู้ที่ ส.ส. และสมาชิกทุกคนภายในพรรคให้การยอมรับ พร้อมทั้งมีพื้นฐานและข้อมูลในด้านของกฎหมาย และเอกสารที่เกี่ยวข้องกับสภาฯ เป็นอย่างดี"น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว
ทั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เปิดเผยว่า คงต้องรอผลการรับรองส.ส.จากคณะกรรมการการเลืองกตั้งที่จะประกาศในวันที่ 12 ก.ค.นี้ ว่าจะรับรองครบตามที่กกต.ระบุไว้หรือไม่ ซึ่งถ้าหากครบตามจำนวนก็สามารถเปิดประชุมสภาฯได้
ส่วนกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ออกมาร้องยุบพรรคเพื่อไทยนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการเล่นการเมืองมากเกินไปหรือไม่ แต่ก็ขอให้กกต.ได้พิจารณาและทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา และทางพรรคพร้อมให้ความร่วมมือและชี้แจงต่อไป ซึ่งตนเองก็บริสุทธิ์ใจและพร้อมที่จะให้คำชี้แจง
"การทำงานตรงจุดนี้ต้องอดทนแม้ว่าจะถูกจับตาทุกอิริยาบถ ซึ่งไม่อยากทะเลาะต้องการแก้ปัญหาให้กับประชาชนมากกว่า ซึ่งจะไม่คุยในประเด็นที่ไม่ใช่การแก้ปัญหาของประชาชน แต่จะทำให้ประเทศเดินหน้าไปได้ อย่างที่ผลโพลระบุว่าประชาชนอยากเห็นการแก้ไขปัญหา" น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว
ส่วนกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่านายพิชิต ชื่นบาน นายก่อแก้ว พิกุลทอง และนายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ อาจจะขาดคุณสมบัติ เพราะระเบียบของพรรคเพื่อไทย ระบุว่าผู้ใดที่ออกจากการจำคุกไม่ถึง 5 ปี จะขาดคุณสมบัตินั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของ กกต. แต่เบื้องต้นทาง กกต. ก็ได้มีการรับรองทั้ง 3 คนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนข้อบังคับของพรรคเพื่อไทยนั้นคงต้องให้เป็นหน้าที่ของฝ่ายกฎหมาย เบื้องต้นแล้วเราได้ม การตรวจสอบแล้ว
สำหรับการจัดทำบัตรประชาชนให้กับเด็กตั้งแต่อายุ 7 ขวบนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ มองว่าเป็นสิ่งที่ดีและพร้อมสานต่อนโยบายเรื่องนี้ เพราะสามารถเชื่อมต่อกับข้อมูลต่างๆได้ ซึ่งข้อมูลนี้สามารถประยุกต์ให้เกิดการพัฒนาของเด็กรวมถึงด้านการศึกษาอีกด้วย