นายเซียะ ปิน คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางจีนกล่าวกับหนังสือพิมพ์ไชน่า ซิเคียวริตีส์ว่า จีนควรใช้นโยบายการเงินอย่างระมัดระวังต่อในอีก 2-3 ปีข้างหน้านี้ ควบคู่ไปกับใช้มาตรการด้านการคลังแบบเชิงรุก เพื่อส่งเสริมการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน
นายเซียะกล่าวว่า ในขณะที่จีนยังคงควบคุมปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบอย่างเข้มงวดนั้น การใช้นโยบายการคลังในเชิงรุกถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้จีนสามารถเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางเศรษฐกิจได้อย่างประสบความสำเร็จ
รายงานของไชน่า ซิเคียวริตีส์ระบุว่า นายเซียะได้แนะนำให้รัฐบาลจีนใช้นโยบายการเงินแบบเชิงรุกมากขึ้น พร้อมกับเร่งการปฏิรูปโครงสร้างการใช้จ่ายด้านการคลัง นอกจากนี้ นายเซียะกล่าวว่า นโยบายการเงินในอนาคตนั้น ควรมุ่งเน้นไปที่การดูดซับสภาพคล่องมูลค่า 76 ล้านล้านหยวน (11.74 ล้านล้านดอลลาร์) ออกจากตลาด ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการสร้างเสถียรภาพด้านราคา
ทั้งนี้ นายเซียะกล่าวว่า การตัดสินใจเรื่องนโยบายการเงินในอนาคตควรจะพิจารณาจากประสบการณ์ในอดีต เนื่องจากประสิทธิภาพการปรับเพิ่มเพดานกันสำรองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ (RRR) และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจถูกบดบังโดยการขยายตัวของปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบ M2
นอกจากนี้ นายเซียะยังเรียกร้องให้รัฐบาลจีนยังคงเดินหน้าใช้การดำเนินการผ่านตลาดเปิดและใช้เครื่องมือด้านการเงิน อาทิเช่น การเพิ่มเพดาน RRR เพื่อควบคุมการขยายตัวของเม็ดเงินในระบบ และช่วยเพิ่มความยึดหยุ่นของอัตราแลกเปลี่ยนเงินเหยวน สำนักข่าวซินหัวรายงาน