บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด รายงานยอดการจำหน่ายรถยนต์ทั้งระบบเดือนมิ.ย. 54 อยู่ที่ 71,462 คัน เพิ่มขึ้น 1.4% จาก 70,445 คันในเดือนมิ.ย. 53
ขณะที่ ยอดขายรถยนต์ 6 เดือนแรกของปี 2554 (ม.ค.-มิ.ย.) มีจำนวน 433,215 คัน เติบโต 21.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มียอดขาย 356,207 คัน
สำหรับยอดการจำหน่ายรถยนต์มาสด้าเฉพาะเดือนมิถุนายนของปี 2554 ที่ผ่านมา มีจำนวน 3,911 คัน เพิ่มขึ้น 16% จากเดือนมิถุนายน 2553 ที่มียอดขาย 3,379 คัน โดยมาสด้า2 แฮตช์แบค 5 ประตู และ รุ่นซีดาน 4 ประตู ยอดขายรวมกันมีจำนวนทั้งสิ้นถึง 2,387 คัน ในขณะที่รถยนต์นั่งสปอร์ตมาสด้า3 มีจำนวนทั้งสิ้น 774 คัน ตามมาด้วยมาสด้า บีที-50 ซึ่งมีการเติบโตสูงที่สุดถึง 104% มียอดขายจำนวนทั้งสิ้น 747 คัน
นอกจากนี้ เดือนมิถุนายนเป็นเดือนที่มาสด้าสามารถทำลายทุกสถิติของตัวเองลงอย่างราบคาบด้วยตัวเลขยอดขายที่สูงถึง 3,911 คัน สูงสุดในประวัติศาสตร์การขายรถของมาสด้าในประเทศไทยตลอดกาล ด้วยอัตราการเติบโตสูง 9% เทียบกับปีที่ผ่านมา ที่สำคัญคือ สามารถคว้าส่วนแบ่งตลาดสูงถึง 5.5% เร็วกว่าแผนการที่ตั้งไว้ถึงสองปี
ด้านยอดการจำหน่ายรถยนต์มาสด้าในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2554 อยู่ที่ 20,304 คัน เพิ่มขึ้น 20.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
"ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ถือเป็นบทพิสูจน์ที่สำคัญต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ของไทย ท่ามกลางเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดที่เกิดขึ้นแต่ส่งผลกระทบในวงกว้างต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ของไทย จนขณะนี้ทุกอย่างได้กลับเข้าสู่สภาวะปกติ สำหรับตลาดประเทศไทย ขณะนี้ มาสด้าสามารถกลับมาดำเนินการผลิตรถยนต์ป้อนตลาดได้ตามปกติเกือบ 100%"นายโชอิชิ ยูกิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว
นายโชอิชิ ยูกิ ยังได้กล่าวถึงภาพรวมของภาวะเศรษฐกิจของไทยในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ว่า หลังจากที่มีการเลือกตั้งและอยู่ในระหวังการจัดตั้งรัฐบาล การที่พรรคแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลมีเสียงเกินกึ่งหนึ่ง ทำให้มั่นใจได้ว่า การเมืองของประเทศไทยจะมีเสถียรภาพแน่นอน และเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจของประเทศไทยจะเดินหน้าต่อเนื่องได้ทันที เนื่องจากมีปัจจัยพื้นฐานรองรับที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว แม้ว่าเหตุภัยพิบัติที่ผ่านมาส่งผลกระทบต่อการชะลอตัวด้านการผลิต และส่งออก แต่ก็เป็นเพียงระยะสั้นเท่านั้น การส่งออกสินค้าโดยรวม และอุปสงค์ในประเทศยังคงขยายตัวต่อเนื่องจากปัจจัยสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจที่ยังอยู่ในเกณฑ์ดี ทั้งรายได้เกษตรกรและการจ้างงานที่อยู่ในระดับสูง หากมองปัจจัยภายนอกก็ยังคงเห็นความเปราะบางอยู่บ้าง อาทิ สถานการณ์ทางเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา เป็นปัจจัยที่ควรติดตามจับตามองและประเมินผลอย่างใกล้ชิด
สำหรับแนวโน้มสถานการณ์ในช่วงครึ่งหลังของ ปี 2554 อุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศจะเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติทั้งการผลิตและการส่งออก โดยคาดหมายว่าอุตสาหกรรมรถยนต์จะเติบโตประมาณ 5-6% และมียอดขายรวมสูงมากกว่า 840,000 คัน