ค่าเงินยูโรร่วงลงอย่างหนักเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (11 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าปัญหาหนี้สาธารณะของยุโรปอาจลุกลามไปยังอิตาลีซึ่งเป็นประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของยุโรป ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงได้รับแรงกดดันจากตัวเลขจ้างงานที่เพิ่มขึ้นน้อยเกินคาดในสหรัฐ
ค่าเงินยูโรร่วงลง 1.79% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.4012 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.4267 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ค่าเงินปอนด์ร่วงลง 0.97% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.5902 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6057 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.47% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 80.240 เยน จากระดับ 80.620 เยน และอ่อนตัวลง 0.05% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.8357 ฟรังค์ จากระดับ 0.8361 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 1.05% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ออสเตรเลียที่ระดับ 1.0640 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0753 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลง 1.17% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8276 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8374 ดอลลาร์สหรัฐ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ค่าเงินยูโรได้รับแรงกดดันอย่างหนักจากข่าวที่ว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) และคณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) ได้หารือกันเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่ว่าปัญหาหนี้ยุโรปอาจลุกลามจากกรีซไปยังอิตาลี
สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) เตือนว่า S&P อาจจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของอิตาลีในอีก 24 ชั่วโมงข้างหน้า หากสถานการณ์ด้านหนี้สินของอิตาลียังคงถดถอย เช่นเดียวกับมูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ที่ได้ออกมาเตือนก่อนหน้านี้ว่า มีความเป็นไปได้ที่มูดีส์จะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของอิตาลีซึ่งปัจจุบันยืนอยู่ที่ระดับ Aa2 หลังจากเศรษฐกิจอิตาลีขยายตัวเพียงเล็กน้อย ในขณะที่ตัวเลขหนี้สาธารณะมีอยู่สูงถึง 120% ของตัวเลขจีดีพี ซึ่งเป็นสัดส่วนสูงสุดเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆในยุโรป
ส่วนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยนหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 18,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดในรอบ 9 เดือน ส่วนอัตราว่างงานเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือนที่ 9.2%
ทางการสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ รวมถึงข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนพ.ค., ราคานำเข้าและส่งออกเดือนมิ.ย. และตัวเลขงบประมาณของรัฐบาลกลางเดือนมิ.ย., ยอดค้าปลีกเดือนมิ.ย., ตัวเลขสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนพ.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนมิ.ย., ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมิ.ย. และผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมิ.ย.