World Today: สรุปข่าวต่างประเทศประจำวันที่ 12 กรกฎาคม 2554

ข่าวต่างประเทศ Tuesday July 12, 2011 17:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ต้ากง โกลบอล เครดิต เรทติ้ง ซึ่งเป็นบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือของจีน ประกาศให้เครดิตพินิจในเชิงลบต่ออันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ A- ของอิตาลี อันเนื่องมาจากความกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและความไม่มั่นคงของระบบการเงินอิตาลี

-- ธนาคารกลางจีนเปิดเผยว่า ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของจีนในเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้น 30.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 3.1975 ล้านล้านดอลลาร์

-- ธนาคารกลางจีนเผย ยอดการปล่อยเงินกู้ครั้งใหม่ของธนาคารพาณิชย์ อยู่ที่ระดับ 6.339 แสนล้านหยวน (9.752 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้นจากเดือนพ.ค.ที่ระดับ 5.516 แสนล้านหยวน

-- รัฐมนตรีคลังกลุ่มยูโรโซนได้ประชุมร่วมกันที่เมืองบรัสเซลส์เมื่อวานนี้ เพื่อหารือเรื่องมาตรการให้ความช่วยเหลือกรีซครั้งใหม่ โดยการประชุมดังกล่าวมีขึ้นท่ามกลางความวิตกกังวลที่ว่า วิกฤตหนี้กำลังลุกลามสู่อิตาลี ซึ่งเป็นประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจขนาดใหญ่ในยูโรโซน

-- ธนาคารกลางของญี่ปุ่น (บีโอเจ) เปิดเผยว่า ราคาค้าส่งในญี่ปุ่นปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.5% ในเดือนมิถุนายน เมื่อเทียบกับปีก่อน และเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 9 ติดต่อกันเนื่องจากราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น

-- ผลการสำรวจความเชื่อมั่นทางธุรกิจของออสเตรเลีย ซึ่งจัดทำโดยเนชั่นแนล ออสเตรเลีย แบงก์ (NAB) ชี้ เศรษฐกิจออสเตรเลียยังเผชิญกับความยากลำบากในการฟื้นตัวจากการชะลอตัวที่เกิดขึ้นเนื่องจากเหตุน้ำท่วมเมื่อปลายปีที่แล้ว

-- ประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติอย่างเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมที่ 0-0.10% ในการประชุมวันนี้ นอกจากนี้ บีโอเจยังได้ยกระดับการประเมินเศรษฐกิจรายเดือน เนื่องจากการฟื้นตัวของภาคการผลิต

-- ธนาคารกลางญี่ปุ่นได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจปีงบประมาณ 2554 เนื่องจากเหตุแผ่นดินไหว ทั้งนี้ บีโอเจคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจะขยายตัว 0.4% ในปีงบประมาณ 2554 และขยายตัว 2.9% ในปีงบประมาณ 2555

-- นายตู ชางเกียง ผู้จัดการฝ่ายการลงทุนจากไชน่า เมอร์ชานท์ส ซิเคียวริตี้ส์ คาดว่าการขยายตัวของดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) ของจีนอาจลดลงสู่ 5% ในช่วงครึ่งหลังปีนี้

-- ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐเปิดเผยว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรครีพับลิกันและเดโมแครทควรจะใช้การเจรจาเรื่องเพดานหนี้เป็นโอกาสในการทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อการปรับลดหนี้สินระยะยาว

-- องค์การเพื่อความร่วมมือและพัฒนาเศรษฐกิจ (OECD) กล่าวว่า ประเทศเศรษฐกิจชั้นนำของโลกประสบกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวในเดือนพฤษภาคม

-- สำนักงานสถิติแห่งชาติ (NSO) เปิดเผยว่า รายได้จากการส่งออกของฟิลิปปินส์ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 19 เดือนที่ระดับ 3.2% ในเดือนพฤษภาคม เนื่องจากยอดส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ปรับตัวลดลง

-- สำนักงานสถิติแห่งชาติอินเดียรายงานว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ค.ขยายตัว 5.6% ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่น้อยที่สุดในรอบ 9 เดือน นอกจากนี้ ตัวเลขดังกล่าวยังลดลงจากเดือนเม.ย.ที่ระดับ 5.8% และต่ำกว่าการคาดการณ์ของตลาดที่ระดับ 8.2%

-- มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ชี้บริษัทของจีน 5 แห่งส่งสัญญาณถึงความเสี่ยงด้านธรรมาภิบาลมากกว่าบริษัทอื่นๆที่มูดีส์ได้ประเมินไว้ ส่งผลให้หุ้นเวสท์ ไชน่า ซีเมนต์ ร่วงเป็นประวัติการณ์

-- ธนาคารกลางอินโดนีเซียประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 6.75% ในการประชุมวันนี้ ซึ่งเป็นการตรึงอัตราดอกเบี้ยในการประชุม 5 ครั้งติดต่อกัน เนื่องจากการชะลอตัวลงของอัตราเงินเฟ้อทำให้คณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางมีโอกาสในการประเมินความเสี่ยงด้านการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก

-- เอชทีซี คอร์ป ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนจากไต้หวัน ยืนยันว่าไม่ได้ละเมิดสิทธิบัตรของบริษัท แอปเปิล อิงค์ หลังจากที่แอปเปิลร้องเรียนเรื่องดังกล่าวต่อคณะกรรมการการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐ (ITC)

-- อัตราเงินเฟ้อของเยอรมนีที่คำนวณตามเกณฑ์มาตรฐานของสหภาพยุโรป (อียู) ทรงตัวที่ระดับ 2.4% ในเดือนมิถุนายน เท่ากับระดับเดือนพฤษภาคม ในขณะที่ต้นทุนพลังงานปรับตัวลดลง

-- หนังสือพิมพ์จาการ์ต้าโพสต์รายงานโดยอ้างคำพูดของนายอากัส มาร์โทวาร์ด็อดโจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของอินโดนีเซียว่า รัฐบาลอินโดนีเซียได้สร้างตำแหน่งงานใหม่กว่า 3.3 ล้านตำแหน่งในปีที่แล้ว และลดอัตราความยากจนลงสู่ 13.3% จากระดับ 14.15% ในปี 2552

-- เม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ของฟิลิปปินส์ปรับตัวลดลง 15% เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ 552 ล้านดอลลาร์ในช่วง 4 เดือนแรกปีนี้ เนื่องจากสถานการณ์ความไม่แน่นอนทั่วโลกที่บั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนลง

-- อัตราเงินเฟ้อของอังกฤษร่วงลงเกินคาดในเดือนมิถุนายน โดยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ลดลงสู่ระดับ 4.2% เมื่อเทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า จะอยู่ที่ระดับ 4.5%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ