สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นแข็งแกร่งเมื่อคืนนี้ (12 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเข้าซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากวิกฤตหนี้สาธารณะที่มีแนวโน้มว่าจะลุกลามจากกรีซไปยังอิตาลี หลังจากต้นทุนการประกันการผิดนัดชำระหนี้ของอิตาลีพุ่งขึ้นเมื่อวานนี้ นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะส่งสัญญาณการใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบสาม (QE3) ในรายงานการประชุมครั้งล่าสุดหรือไม่
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.พุ่งขึ้น 13.10 ดอลลาร์ หรือ 0.9% ปิดที่ 1,562.30 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1554.6 - 1552.0 ดอลลาร์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 6.4 เซนต์ ปิดที่ 35.634 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 2.35 เซนต์ ปิดที่ 4.3915 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 8 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,736.30 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ทรงตัวที่ระดับ 767.45 ดอลลาร์/ออนซ์
สำนักข่าวซินหัวรายงานโดยอ้างความคิดเห็นของนักวิเคราะห์หลายคนในตลาดทองคำนิวยอร์กว่า นักลงทุนกำลังแห่เข้าซื้อสินทรัพย์ที่มั่นคงอย่างทองคำ เนื่องจากความกังวลที่ว่าวิกฤตหนี้สาธารณะอาจจะลุกลามไปยังอิตาลีและสเปน ซึ่งประเทศทั้งสองมีระบบเศรษฐกิจขนาดใหญ่กว่ากรีซ โดยเมื่อวานนี้ ต้นทุนการประกันการผิดนัดชำระหนี้ของอิตาลีและสเปนพุ่งขึ้นอย่างมาก ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปร่วงลงอย่างหนักติดต่อกันหลายวัน
นอกจากนี้ เทรดเดอร์และนักลงทุนจับตาดูรายงานการประชุมครั้งล่าสุดของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) ซึ่งจะมีขึ้นภายหลังจากตลาดทองคำนิวยอร์กปิดทำการ
ไมค์ ดาลี นักวิเคราะห์ด้านทองคำจากบริษัท PFGBEST Group ในเมืองชิคาโกกล่าวว่า หากคณะกรรมการเอฟโอเอ็มซีตัดสินใจเดินหน้าใช้มาตรการ QE3 ก็จะส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวจะเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดทองคำ