ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์ร่วงเทียบยูโร หลังเฟดส่งสัญญาณใช้ QE3

ข่าวต่างประเทศ Wednesday July 13, 2011 07:12 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (12 ก.ค.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณในการประชุมครั้งล่าสุดว่าอาจจะมีการใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบสาม (QE3) ขณะที่ค่าเงินยูโรร่วงลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่าผู้นำยุโรปจะไม่สามารถควบคุมการลุกลามของปัญหาหนี้สาธารณะได้ นอกจากนี้ ยูโรยังถูกกดดันหลังจากมูดีส์ลดอันดับความน่าเชื่อถือของไอร์แลนด์ลงสู่ระดับ "ขยะ"

ค่าเงินยูโรร่วงลง 0.42% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3976 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.4035 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ค่าเงินปอนด์ขยับขึ้น 0.04% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.5915 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5908 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 1.06% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 79.360 เยน จากระดับ 80.210 เยน และดิ่งลง 0.49% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.8314 ฟรังค์ จากระดับ 0.8355 ฟรังค์

ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 0.51% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0599 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0653 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลง 1.34% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8181 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8288 ดอลลาร์สหรัฐ

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับยูโร หลังจากรายงานการประชุมครั้งล่าสุดของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) ระบุว่า คณะกรรมการมีการหารือกันเป็นครั้งแรกว่าควรจะมีการใช้มาตรการ QE3 หากการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐเชื่องช้าเกินกว่าจะฉุดอัตราว่างงานให้ปรับตัวลดลงได้

ส่วนค่าเงินยูโรร่วงลงอย่างหนักเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หลังจากมูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของไอร์แลนด์ลงสู่ระดับ Ba1 หรือระดับ "ขยะ" โดยระบุว่า ไอร์แลนด์อาจจะต้องขอรับความช่วยเหลือครั้งใหม่จากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และสหภาพยุโรป (อียู) ก่อนที่ไอร์แลนด์จะสามารถกลับเข้าสู่ตลาดการเงินได้ ขณะที่มาตรการช่วยเหลือไอร์แลนด์ครั้งแรกของไอเอ็มเอฟและอียูจะหมดอายุลงในปี 2556

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขาดดุลการค้าเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 3 ปีในเดือนพ.ค. เนื่องจากการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน ทั้งนี้ ยอดขาดดุลการค้าเดือนพ.ค.อยู่ที่ระดับ 5.02 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2552 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ที่ 4.40 หมื่นล้านดอลลาร์

ทางการสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ รวมถึงตัวเลขงบประมาณของรัฐบาลกลางเดือนมิ.ย., ยอดค้าปลีกเดือนมิ.ย., ตัวเลขสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนพ.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนมิ.ย., ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมิ.ย. และผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมิ.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ