World Marketsสรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ข่าวต่างประเทศ Thursday July 14, 2011 06:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 ก.ค.) หลังจากเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่า เฟดพร้อมที่จะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ซึ่งอาจจะรวมถึงมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบสาม หรือ QE3 หากพบว่าภาวะอ่อนแอของเศรษฐกิจยืดเยื้อยาวนานและมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับภาวะขาลง นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนหลังจากทางการจีนเปิดเผยว่าเศรษฐกิจยังคงขยายตัวได้ดีในช่วงครึ่งปีแรก

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 44.73 จุด หรือ 0.36% แตะที่ 12,491.61 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 4.08 จุด หรือ 0.31% แตะที่ 1,317.72 จุด ดัชนี Nasdaq ปิดบวก 15.01 จุด หรือ 0.54% แตะที่ 2,796.92 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 ก.ค.) หลังจากสำนักงานสารนิเทศด้านพลังงานของสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่าสต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่แล้วลดลงเกินคาด ซึ่งบ่งชี้ว่าความแข็งแกร่งของอุปสงค์พลังงานในสหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของจีน และหลังจากเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าเฟดพร้อมใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม หากเศรษฐกิจมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับภาวะขาลง

สัญญน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ปิดบวก 62 เซนต์ หรือ 0.64% แตะที่ 98.05 ดอลลาร์/บาร์เรล

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อคืนนี้ (13 ก.ค.) หลังจากประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่า เฟดพร้อมที่จะใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบสาม (QE3) เพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งข่าวดังกล่าวได้ฉุดสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงอย่างหนัก นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนแห่ซื้อเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากวิกฤตหนี้ยุโรป

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.พุ่งขึ้น 23.2 ดอลลาร์ หรือ 1.5% ปิดที่ 1,585.5 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

-- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (13 ก.ค.) หลังจากเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า เฟดพร้อมที่จะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ซึ่งอาจจะรวมถึงมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบสาม หรือ QE3 หากพบว่าภาวะอ่อนแอของเศรษฐกิจยืดเยื้อยาวนานและมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับภาวะขาลง ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของจีนช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยุโรป และหนุนยูโรพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ แม้หลายประเทศในยูโรโซนถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือลงสู่ระดับ "ขยะ" แล้วก็ตาม

ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้น 1.19% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.4142 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันอังคารที่ 1.3976 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์พุ่งขึ้น 1.22% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.6108 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5914 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 1.40% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.8172 ฟรังค์ จากระดับ 0.8288 ฟรังค์ แต่ขยับขึ้น 0.30% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 78.970 เยน จากระดับ 78.730 เยน

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 1.30% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0739 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0601 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.8351 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8176 ดอลลาร์สหรัฐ

-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 ก.ค.) หลังจากเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า เฟดพร้อมที่จะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ซึ่งรวมถึงมาตรการ QE3 หากเศรษฐกิจเสี่ยงที่จะเผชิญกับภาวะขาลง นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของจีน

ดัชนี FTSE 100 ปิดบวก 37.47 จุด แตะที่ 5906.43 จุด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ