"เบอร์นันเก้" ส่งสัญญาณใช้ QE3 หากเศรษฐกิจอ่อนแอและเสี่ยงเผชิญภาวะขาลง

ข่าวต่างประเทศ Thursday July 14, 2011 08:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แถลงมุมมองเศรษฐกิจต่อสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐในช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาประเทศไทยว่า เฟดพร้อมที่จะใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบสาม หรือ QE3 หากพบว่ามีความเสี่ยงที่จะทำให้เศรษฐกิจเผชิญกับภาวะขาลง เช่นแรงกดดันที่เกิดจากภาวะเงินฝืด

"หากเฟดพบว่ามีความเป็นไปได้ที่ภาวะอ่อนแอทางเศรษฐกิจยืดเยื้อยาวนานกว่าที่คาดการณ์ไว้ และหากภาวะเงินฝืดกลับมาส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐอีกครั้ง เฟดก็จะอาจจะพิจารณาใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม" เบอร์นันเก้แถลงมุมมองเศรษฐกิจต่อคณะกรรมาธิการด้านการเงินแห่งสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ในระหว่างการแถลงมุมมองเศรษฐกิจต่อสภาผู้แทนราษฎรซึ่งมีขึ้นปีละ 2 ครั้งนั้น เบอร์นันเก้ได้เสนอทางเลือก 3 ทางให้คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟดพิจารณา ซึ่งรวมถึงการซื้อพันธบัตรรัฐบาลรอบใหม่ ซึ่งถือเป็นรอบที่ 3 นับตั้งแต่ปี 2552 หรือที่เรียกว่ามาตรการ QE3 ส่วนทางเลือกอื่นๆได้แก่การลดอัตราดอกเบี้ยที่จ่ายให้กับธนาคารพาณิชย์ที่ตั้งบัญชีสำรองเงินฝากไว้กับเฟด เพื่อสนับสนุนธนาคารพาณิชย์ให้สามารถปล่อยเงินกู้ได้มากขึ้น

นอกจากนี้ เฟดจะกำหนดท่าทีที่ชัดเจนว่าจะใช้นโยบายตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เป็นเวลานานเท่าใด ซึ่งจะช่วยให้นักลงทุนเชื่อมั่นในความพยายามของเฟดที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง

เบอร์นันเก้มองว่า ปัจจัยชั่วคราว เช่น การพุ่งขึ้นของราคาอาหารและเชื้อเพลิงที่ทำให้เศรษฐกิจนั้น จะชะลอตัวลงในช่วงครึ่งปีหลัง แต่หากราคาอาหารและเชื้อเพลิงไม่ลดลงตามที่คาดการณ์ไว้ เฟดก็พร้อมที่จะดำเนินการเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว ซึ่งอาจจะรวมถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในจังหวะเวลาที่รวดเร็วกว่าที่มีการวางแผนไว้ในเบื้องต้น

การแสดงความคิดเห็นของเบอร์นันเก้มีขึ้นหลังจากเฟดเปิดเผยรายงานการประชุมครั้งล่าสุดว่า คณะกรรมการเฟดอาจจะพิจารณาใช้มาตรการ QE3 หากเศรษฐกิจขยายตัวช้าเกินไปจนไม่สามารถฉุดอัตราว่างงานให้ลดลงได้

อัตราว่างงานเดือนมิ.ย.ของสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือนที่ 9.2% ขณะที่ ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้นเพียง 18,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นน้อยที่สุดในรอบ 9 เดือน

ในการประชุมเมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา เฟดได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐในปีนี้ลงสู่ระดับ 2.7-2.9% จากเดิมที่ระดับ 3.1-3.3% และได้ปรับลดคาดการณ์จีดีพีปีหน้าลงสู่ระดับ 3.3-3.7% จากเดิมที่ระดับ 3.5-4.2% นอกจากนี้ เฟดยังได้ตัดสินใจยุติมาตรการ QE2 หรือโครงการซื้อพันธบัตรมูลค่า 6 แสนล้านดอลลาร์ ในวันที่ 30 มิ.ย.ตามแผนการที่วางไว้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ