กระทรวงการคลังของจีนเปิดเผยว่า รายได้ด้านการคลังของรัฐบาลปรับตัวเพิ่มขึ้น 31.2% ต่อปีแตะที่ระดับ 5.69 ล้านล้านหยวน (8.755 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ขณะที่ในเดือนมิถุนายนเพียงเดือนเดียว รายได้ด้านการคลังอยู่ที่ระดับ 1.01 ล้านล้านหยวน เพิ่มขึ้น 27.6% จากปีก่อนหน้านี้
รายได้ด้านการคลังของจีน มาจากการเก็บภาษี ค่าธรรมเนียมการบริหารราชการแผ่นดิน และแหล่งรายได้อื่นๆของรัฐบาล เช่น ค่าปรับและรายได้จากสินทรัพย์ของรัฐบาล
โดยทางกระทรวงฯให้เหตุผลถึงการขยายตัวที่รวดเร็วของรายได้ด้านการคลังในช่วงครึ่งปีแรกว่ามาจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจในประเทศและราคาสินค้าที่ปรับตัวสูงขึ้น
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนเปิดเผยว่า เศรษฐกิจจีนขยายตัวที่ระดับ 9.6% เมื่อเทียบเป็นรายปีในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ โดยมีอัตราการขยายตัวที่ 9.5% ในไตรมาส 2
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.4% ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านี้ โดยมีอัตราการขยายตัวที่พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปีที่ 6.4% ในเดือนมิถุนายน
กระทรวงการคลังระบุว่า การขยายตัวของรายได้ด้านการคลังอาจจะชะลอตัวลงในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ เนื่องจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจเริ่มซบเซาลงและมีการยกเว้นภาษีเงินได้มากขึ้น
ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ จีนมีการใช้จ่ายด้านการคลังเพิ่มขึ้น 31.4% จากปีก่อนหน้านี้ มาอยู่ที่ระดับ 4.44 ล้านล้านหยวน โดยยอดการใช้จ่ายในเดือนมิถุนายนอยู่ที่ระดับ 1.08 ล้านล้านหยวน เพิ่มขึ้น 33.1% สำนักข่าวซินหัวรายงาน