สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดเดินหน้าขึ้นอีกเมื่อคืนนี้ (14 ก.ค.) หลังจากมูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส เตือนว่าอาจจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ ซึ่งปัจจุบันอยู่ในระดับสูงสุดที่ AAA เนื่องจากมีความเป็นไปได้มากขึ้นว่า รัฐสภาสหรัฐจะไม่สามารถบรรลุข้อตกลงปรับเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลกลางได้ทันกำหนดเส้นตายต้นเดือนส.ค.นี้ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวจะทำให้สหรัฐเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ นอกจากนี้ วิกฤตหนี้ยุโรปที่ยังคงดำเนินอยู่มีส่วนผลักดันให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 3.8 ดอลลาร์ หรือ 0.2% ปิดที่ 1,589.3 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ระดับใหม่ต่อจากวันพุธ
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.ปรับตัวขึ้น 54.3 เซนต์ หรือ 1.4% ปิดที่ 38.694 ดอลลาร์/ออนซ์ ขณะที่สัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 2.35 เซนต์ ปิดที่ 4.38 ดอลลาร์/ปอนด์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ขยับขึ้น 7.3 ดอลลาร์ หรือ 0.4% ปิดที่ 1,774.3 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 65 เซนต์ ปิดที่ 783.35 ดอลลาร์/ออนซ์
มูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ได้ประกาศทบทวนอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐซึ่งอยู่ในระดับสูงสุดที่ AAA มาตั้งแต่ปีพ.ศ.2460 โดยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2538 ที่มูดีส์ทบทวนอันดับความน่าเชื่อถือสหรัฐ โดยระบุว่าอาจจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ เนื่องจากมีความเป็นไปได้มากขึ้นว่า รัฐสภาสหรัฐจะไม่ปรับเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลกลางได้ทันเวลาเพื่อป้องกันการผิดนัดชำระหนี้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย
ขณะเดียวกัน ทางฝั่งยุโรป ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซลงอีก 3 ขั้น จากระดับ B+ สู่ระดับ CCC หรือ "ระดับขยะ" ซึ่งสูงกว่าระดับที่ถูกประเมินว่า "ผิดนัดชำระหนี้" อยู่เพียงขั้นเดียว และเป็นระดับต่ำสุดในบรรดาทุกประเทศในโลก โดยฟิทช์เตือนว่าอาจจะพิจารณาว่าธุรกรรมการซื้อพันธบัตรชุดใหม่ของรัฐบาลกรีซเมื่อพันธบัตรชุดปัจจุบันครบกำหนดไถ่ถอน หรือการทำ rollover นั้น เป็นการผิดนัดชำระหนี้
ความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยูโรโซนยังคงดำเนินอยู่ โดยล่าสุดพันธบัตรรัฐบาลอิตาลีร่วงลง ขณะที่ต้นทุนการกู้ยืมปรับตัวสูงขึ้นในการประมูลตราสารหนี้ ขณะเดียวกันหน่วยงานกำกับดูแลของยุโรปกำลังหาทางระงับความกังวลของนักลงทุนที่ว่าธนาคารพาณิชย์ในภูมิภาคมีผลการประเมินไม่ดีนักในการทดสอบภาวะวิกฤต (stress test) รอบสอง ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันศุกร์
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ทองคำจะยังคงได้รับอานิสงส์จากปัญหาวุ่นวายทางเศรษฐกิจ เนื่องจากความไม่แน่นอนในตลาดอื่นๆได้ผลักดันให้นักลงทุนแห่ซื้อโลหะมีค่าในฐานะแหล่งลงทุนที่ปลอดภัย
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า อย่างไรก็ตาม แรงซื้อทองคำเมื่อวานนี้ถูกลดทอนลงบางส่วน หลังจากเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ เปลี่ยนแปลงท่าทีเกี่ยวกับการใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม โดยในการแถลงรายงานเศรษฐกิจต่อรัฐสภาวันที่สอง นายเบอร์นันเก้ระบุว่า เฟดยังไม่พร้อมที่จะใช้มาตรการ QE3 ในตอนนี้ ซึ่งเป็นการดับความหวังของนักลงทุนในตลาด หลังจากที่ประธานเฟดเพิ่งกล่าวก่อนหน้านั้นเพียงหนึ่งวันว่า ธนาคารกลางพร้อมที่จะใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบสาม หรือ QE3 หากพบว่ามีความเสี่ยงที่จะทำให้เศรษฐกิจเผชิญกับภาวะขาลง
ทั้งนี้ ราคาทองคำปรับตัวขึ้นแล้ว 11% ตั้งแต่ต้นปีนี้ และมีการคาดการณ์ว่าอาจทะยานขึ้นถึง 2,000 ดอลลาร์ หากเฟดเริ่มใช้มาตรการ QE รอบสาม หรือการซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ