ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับยูโรและเยน ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (14 ก.ค.) หลังจากเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า เฟดจะยังไม่ใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบสาม หรือ QE3 ในตอนนี้ ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงท่าทีจากที่เพิ่งกล่าวก่อนหน้านี้เพียงวันเดียวว่า เฟดพร้อมที่จะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม หากพบว่าภาวะอ่อนแอของเศรษฐกิจยืดเยื้อยาวนานและมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับภาวะขาลง
เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น 0.16% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 79.130 เยน จากระดับของวันพุธที่ 79.000 เยน และดีดขึ้น 0.16% เช่นกัน เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.8160 ฟรังค์ จากระดับ 0.8147 ฟรังค์ รวมถึงแข็งค่าขึ้น 0.17% เมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ 0.9602 จากระดับ 0.9586 ดอลลาร์แคนาดาเมื่อวันพุธ
เงินยูโรอ่อนค่าลง 0.28% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.4141 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพุธที่ 1.4181 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้น 0.10% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.6140 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6124 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 0.41% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0717 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0761 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.32% แตะ 0.8409 จากระดับ 0.8382 ดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้ ในระหว่างการแถลงต่อสภาคองเกรสวันที่ 2 นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ระบุว่า เฟดยังไม่พร้อมที่จะใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินรอบใหม่ในระยะเวลาอันใกล้นี้ ในขณะที่เฟดยังคงประเมินการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งเขาระบุว่า "ปัจจุบัน สถานการณ์มีความซับซ้อนมากขึ้น เงินเฟ้อสูงขึ้น การคาดการณ์เงินเฟ้อก็ใกล้เคียงกับเป้าหมายของเรา"
“ณ จุดนี้ เราไม่ได้เตรียมการที่จะใช้มาตรการเพิ่มเติม" เบอร์นันเก้กล่าวตอบข้อซักถามของนายทิม จอห์นสัน ประธานคณะกรรมการการธนาคารของวุฒิสภาสหรัฐ "เราต้องการเห็นว่าเศรษฐกิจดีขึ้นจริงอย่างที่เรากำลังคาดการณ์"
ถ้อยแถลงดังกล่าวได้ทำลายความหวังของนักลงทุนที่เพิ่งถูกจุดปะทุขึ้นก่อนหน้านี้เพียงหนึ่งวัน จากการที่นายเบอร์นันเก้เองได้แถลงต่อรัฐสภาสหรัฐเมื่อวันพุธว่า เฟดพร้อมที่จะใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบสาม หรือ QE3 หากพบว่ามีความเสี่ยงที่จะทำให้เศรษฐกิจเผชิญกับภาวะขาลง
เงินดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้นหลังประธานเฟดเปลี่ยนแปลงท่าทีเกี่ยวกับ QE3 หลังจากที่สกุลเงินดอลลาร์ได้อ่อนตัวลงเมื่อเที่ยบกับสกุลเงินหลักอื่นๆในวันก่อน เมื่อนายเบอร์นันเก้ส่งสัญญาณว่าอาจมีการใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินเพิ่มเติม
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐขยับขึ้น 0.1% ในช่วงท้ายของการซื้อขาย
อย่างไรก็ตาม แม้ถ้อยแถลงล่าสุดของเบอร์นันเก้ช่วยหนุนให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น แต่ในขณะเดียวกันดอลลาร์สหรัฐก็ยังคงได้รับแรงกดดัน หลังจากที่มูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ได้ประกาศทบทวนอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐซึ่งอยู่ในระดับสูงสุดที่ AAA มาตั้งแต่ปีพ.ศ.2460 โดยระบุว่าอาจจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ เนื่องจากมีความเป็นไปได้มากขึ้นว่า รัฐสภาสหรัฐจะไม่ปรับเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลกลางได้ทันกำหนดเส้นตายที่ใกล้เข้ามาทุกขณะ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวจะทำให้สหรัฐอาจผิดนัดชำระหนี้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย
ด้านเงินยูโร ร่วงลงหลังจากถ้อยแถลงล่าสุดของเบอร์นันเก้ นอกจากนั้นเงินยูโรยังถูกกดดันจากวิกฤตหนี้ยุโรปที่ยังคงยืดเยื้อและปกคลุมทั่วภูมิภาค
ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซลงอีก 3 ขั้น จากระดับ B+ สู่ระดับ CCC หรือ "ระดับขยะ" ซึ่งสูงกว่าระดับที่ถูกประเมินว่า "ผิดนัดชำระหนี้" อยู่เพียงขั้นเดียว และเป็นระดับต่ำสุดในบรรดาทุกประเทศในโลก โดยฟิทช์เตือนว่าอาจจะพิจารณาว่าธุรกรรมการซื้อพันธบัตรชุดใหม่ของรัฐบาลกรีซเมื่อพันธบัตรชุดปัจจุบันครบกำหนดไถ่ถอน หรือการทำ rollover นั้น เป็นการผิดนัดชำระหนี้
ขณะเดียวกันพันธบัตรรัฐบาลอิตาลีร่วงลง ขณะที่ต้นทุนการกู้ยืมปรับตัวสูงขึ้นในการประมูลตราสารหนี้ นอกจากนี้ หน่วยงานกำกับดูแลของยุโรปกำลังหาทางระงับความกังวลของนักลงทุนที่ว่าธนาคารพาณิชย์ในภูมิภาคมีผลการประเมินไม่ดีนักในการทดสอบภาวะวิกฤต (stress test) รอบสอง ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันศุกร์