ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์อ่อนเทียบสกุลเงินหลัก หลังข้อมูลศก.สหรัฐน่าผิดหวัง

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (15 ก.ค.) หลังจากที่มีการเปิดเผยผลการทดสอบภาวะวิกฤต (stress test) ของธนาคารในยุโรป รวมถึงการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่น่าผิดหวัง

เงินยูโรแข็งค่า 0.01% เมื่อเทียบเงินดอลลาร์สหรัฐ แตะที่ระดับ 1.4144 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ 1.4142 ดอลลาร์/ยูโร เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่า 0.06% เมื่อเทียบเงินดอลลาร์ แตะที่ 1.6134 ดอลลาร์/ปอนด์ จาก 1.6144 ดอลลาร์/ปอนด์

เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่า 0.14% เมื่อเทียบเงินเยน สู่ระดับ 79.040 เยน/ดอลลาร์ จาก 79.150 เยน/ดอลลาร์ และอ่อนค่าลง 0.33% เมื่อเทียบเงินฟรังค์สวิส แตะระดับ 0.8129 ฟรังค์สวิส/ดอลลาร์ จากระดับ 0.8156 ฟรังค์สวิส/ดอลลาร์

เงินดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่า 0.74% เทียบเงินดอลลาร์สหรัฐ สู่ระดับ 1.0640 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จาก 1.0719 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย ส่วนเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์แข็งค่า 0.50% เทียบเงินดอลลาร์สหรัฐ แตะที่ 0.8465 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จาก 0.8423 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์

สำนักงานซินหัวรายงานว่า สำนักงานกำกับดูแลด้านการธนาคารแห่งยุโรปเปิดเผยว่า มีธนาคารเพียง 8 แห่งที่ไม่ผ่านการทดสอบภาวะวิกฤต (stress test) จากธนาคารทั้งหมด 90 แห่งที่ทำการทดสอบ ผลลัพธ์ดังกล่าวเหมือนจะเป็นข่าวดี แต่นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งตั้งข้อสงสัยว่าการทดสอบมีความเข้มข้นพอหรือไม่

ขณะเดียวกันข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่น่าผิดหวังก็สร้างแรงกดดันต่อเงินดอลลาร์ โดยดัชนีของธอมสัน รอยเตอร์ส/มหาวิทยาลัยมิชิแกน ระบุว่า ความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลงสู่ระดับ 63.8 จุดในเดือนกรกฎาคม จากระดับ 71.5 จุดในเดือนมิถุนายน ซึ่งสวนทางกับที่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นแตะ 72.5 จุด

ขณะเดียวกันธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมิถุนายนขยับขึ้นเพียง 0.2% นับเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันที่ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมซบเซา