บริษัทผู้ผลิตรถชั้นนำและผู้เชี่ยวชาญในงานแสดงรถยนต์ที่มณฑลจีหลินคาดว่า การขยายตัวในภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ของจีนจะขยายตัวเร็วขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้
หยู เทียนเทียน นักวิจัยของบริษัท จีหลิน นอร์ท ออโตโมบิล อินดัสทรี อินฟอร์เมชั่น เดเวลล็อปเมนท์ กล่าวว่า รัฐบาลอาจจะใช้นโยบายที่เหมาะสมเพื่อกระตุ้นตลาด และสร้างความเชื่อมั่นว่า อัตราการขยายตัวของยอดขายรถและผลผลิตที่ชะลอตัวลงในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้จะขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง รัฐบาลกำลังศึกษานโยบายใหม่ๆที่จะนำมาใช้เพื่อกระตุ้นการใช้รถ
ข้อมูลจากสมาคมผู้ผลิตยานยนต์จีนชี้ว่า ยอดขายรถของจีนในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้อยู่ที่ 9.23 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 3.25% เมื่อเทียบเป็นรายปี แต่อัตราการขยายตัวนั้นอยู่ต่ำกว่าระดับปีที่แล้ว 29% ขณะที่ผลผลิตรถขยายตัวแค่ 2.48% แตะ 9.16 ล้านคันในช่วงดังกล่าว
เฉิน ฟางหมิง ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ของเจ้อเจียง จีลี่ โฮลดิ้ง กรุ๊ป กล่าวว่า ตัวเลขที่ลดลงอันเนื่องมาจากการยกเลิกการใช้นโยบายจูงใจด้านภาษีการซื้อรถ ตลอดจนการจำกัดการซื้อรถในบางเมือง และอุปทานเงินที่ตึงตัวนั้น จะบรรเทาเบาบางลงในปีนี้ นโยบายใดที่รัฐบาลได้นำมาใช้จะกลายเป็นปัจจัยสำคัญของช่วงขาขึ้นและขาลงในตลาดรถ
ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญและวงในที่เข้าร่วมงานโชว์กล่าวว่า พวกเขามีมุมมองที่เป็นบวกเกี่ยวกับการขยายตัวในอนาคต
ซู หยูหลิน รองประธานของ GAC Motor ในกวางโจว กล่าวว่า แม้ว่ายอดขายจะอ่อนตัวลงในช่วงครึ่งปีแรก แต่เราก้ยังมั่นใจในตลาด เนื่องจากรัฐบาลได้ปรับปรุงนโยบาย
ที่ผ่านมา รัฐบาลได้นำมาตรการต่างๆมาใช้ โดยมีเป้าหมายที่การช่วยเหลือวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดเล็กให้ได้รับความช่วยเหลือด้านการเงิน
หยูกล่าวว่า นับเป็นข่าวดีสำหรับตลาดรถโดยสารใหม่และดั้งเดิม เนื่องจากส่วนแบ่งจำนวนมหาศาลของผู้บริโภคเป้าหมายนั้นเป็นเจ้าของกิจการเอสเอ็มอี นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้ประกาศไปเมื่อเดือนมิ.ย.ว่า จะใช้มาตรการต่างๆเพื่อลดต้นทุนด้านการขนส่งลงด้วยการลดภาษีที่เกี่ยวข้องและค่าธรรมเนียมการใช้ถนน
ขณะเดียวกัน การจำกัดการซื้อรถในปักกิ่ง ซึ่งส่งผลยอดขายในตลาดหดตัวลงนั้น คาดว่า จะไม่ได้มีการนำมาใช้ในขอบเขตที่กว้างขวางขึ้นในภูมิภาคอื่นๆ สมาคมผู้ผลิตฯระบุ
เจียง จุน ศาสตราจารย์ของสถาบันสังคมศาสตร์จีหลิน กล่าวว่า คาดว่า การใช้นโยบายดังกล่าวในภูมิภาคอื่นๆของประเทศนั้นคงจะไม่ได้รับการอนุมัติ
ปักกิ่งได้ใช้ระบบโควต้ารถตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. โดยจำกัดปริมาณการจดทะเบียนรถยนต์ใหม่ในเมืองไว้ที่เพียง 240,000 คันในปีนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับเมื่อปีที่แล้วที่มียอดรถจดทะเบียนใหม่ 800,000 คัน
หยูกล่าวว่า ราคาผู้บริโภคที่สูงขึ้นซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้ประชาชนงดเว้นการใช้จ่ายนั้น เริ่มที่จะลดลงในปีนี้ เนื่องจากการใช้มาตรการคุมเข้มที่เริ่มส่งผลเป็นรูปธรรม โดยผู้บริโภคจะมีความมั่นใจมากขึ้นเมื่อทางการสามารถควบคุมเงินเฟ้อได้
โดยหยูคาดการณ์ว่า ดัชนี CPI ของจีนจะพุ่งสูงสุดในช่วงเดือนมิ.ย.และก.ค.
เจียงกล่าวว่า การขาดแคลนน้ำมันนั้นจะลดลง เนื่องจากกระทรวงคลังได้เริ่มใช้นโยบายภาษีนำเข้าที่ศูนย์กับน้ำมันดีเซลและเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องบินตั้งแต่เดือนก.ค. หลังจากที่สำนักงานพลังงานสากลได้ระบายน้ำมันจากคลังยุทธภัณฑ์ โดยมีเป้าหมายที่จะบรรเทาภาวะติดขัดด้านอุปทานในลิเบีย
เจียงกล่าวต่อไปว่า ราคาน้ำมันที่มีเสถียรภาพจะช่วยส่งเสริมความมั่นใจของผู้บริโภค ขณะที่การส่งออกรถ ซึ่งคาดว่า จะเพิ่มขึ้น 50% เมื่อเทียบเป็นรายปีในช่วงครึ่งปีแรกนั้น จะยังคงขยายตัวที่อัตราดังกล่าวในช่วงครึ่งปีหลัง
ทั้งนี้ ยอดขายรถของจีนคาดว่า จะขยายตัวประมาณ 6% ในปีนี้ และพุ่งขึ้นมากกว่า 32% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะ 18.06 ล้านคันเมื่อปีที่แล้ว ส่งผลให้ตลาดรถจีนเป็นตลาดรถที่ใหญ่ที่สุดในโลกติดต่อกันเป็นปีที่ 2 สำนักข่าวซินหัวรายงาน