ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ยูโรร่วง เหตุวิตกปัญหาหนี้ลุกลามภาคธนาคารยุโรป

ข่าวต่างประเทศ Tuesday July 19, 2011 06:55 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินยูโรร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (18 ก.ค.) เนื่องจากความกังวลที่ว่าวิกฤตหนี้สาธารณะอาจลุกลามไปยังภาคธนาคารของยุโรป หลังจากผลการทบสอบภาวะวิกฤต (stress test) ระบุว่า ธนาคารของกรีซและสเปนมีความเสี่ยงมากที่สุด นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลว่าหากรัฐสภาสหรัฐไม่อนุมัติการเพิ่มเพดานหนี้สิน ก็จะส่งผลให้สหรัฐเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้

ค่าเงินยูโรร่วงลง 0.28% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.4110 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.4150 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ดิ่งลง 0.56% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.6044 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6134 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง 0.06% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 79.060 เยน จากระดับ 79.110 เยน แต่ดีดตัวขึ้น 0.41% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.8178 ฟรังค์ จากระดับ 0.8145 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 0.45% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0592 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0640 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลง 0.18% เมื่อเทียบดอลลาร์นิวซีแลนด์ที่ระดับ 0.8439 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8454 ดอลลาร์สหรัฐ

สกุลเงินยูโรได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่า ปัญหาหนี้สาธารณะอาจลุกลามไปยังภาคธนาคารในยุโรป หลังจากผลการทดสอบภาวะวิกฤตระบุว่า ธนาคาร 8 แห่งในยุโรปที่ไม่ผ่านการทดสอบในครั้งนี้มีการดำรงเงินกองทุนขั้นที่ 1 น้อยกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำ 5% โดยธนาคารที่มีความเสี่ยงได้แก่ ธนาคาร Bankinter และธนาคาร Sabadell ของสเปน ธนาคาร Banco Popolare ของอิตาลี ธนาคาร Piraeus และธนาคาร ATEbank ของกรีซ ธนาคาร Marfin Popular และธนาคาร Bank of Cyprus ของไซปรัส ธนาคาร Bank of Ireland และธนาคาร Allied Irish Banks ของไอร์แลนด์

นายเฮอร์แมน แวน รอมปุย ประธานสหภาพยุโรป (อียู) เปิดเผยว่า กลุ่มประเทศยูโรโซนจะจัดการประชุมฉุกเฉินในวันพฤหัสบดีที่ 21 ก.ค.นี้ โดยวาระการประชุมหลักๆคือการหาแนวทางรับมือกับวิกฤตหนี้ รวมทั้งประเมินเสถียรภาพด้านการเงินของยูโรโซน และการให้ความช่วยเหลือกรีซครั้งใหม่ ซึ่งนายรอมปุยยอมรับว่า มีความเสี่ยงสูงมากที่วิกฤตหนี้จะลุกลามในยูโรโซน และจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้มาตรการเร่งด่วนเพื่อสกัดการลุกลามดังกล่าว

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สมาชิกยูโรโซน ซึ่งนำโดยเยอรมนีและเนเธอร์แลนด์ ยืนยันว่าจะดึงภาคเอกชนเข้ามามีส่วนในการให้ความช่วยเหลือกรีซครั้งใหม่ แต่ที่ประชุมรัฐมนตรีคลังยูโรโซนเมื่อวันจันทร์ที่แล้วนั้น ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกันในเรื่องดังกล่าวได้ ขณะที่นักวิเคราะห์กล่าวว่า หากผลการประชุมฉุกเฉินในวันที่ 21 ก.ค.นี้ไม่มีความคืบหน้า ก็อาจทำให้ตลาดการเงินทั่วโลกวิตกกังวลเกี่ยวกับการลุกลามของวิกฤตหนี้ยุโรปมากขึ้น

นอกจากนี้ บรรยากาศการซื้อขายโดยรวมในตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กยังได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่า รัฐสภาและคณะทำงานของประธานาธิบดีบารัค โอบามา อาจจะไม่สามารถตกลงกันได้เรื่องการปรับเพิ่มเพดานหนี้ได้ก่อนวันที่ 2 ส.ค.นี้ ขณะที่กระทรวงการคลังสหรัฐเตือนว่า หากไม่มีการปรับเพิ่มเพดานหนี้ในวันดังกล่าว สหรัฐจะต้องกลายเป็นประเทศที่ผิดนัดชำระหนี้ และจะสร้างความเสียหายอย่างหนักต่อตลาดการเงินทั่วโลก

ความกังวลเรื่องปัญหาหนี้ของสหรัฐทำให้สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) เตือนว่ามีโอกาส 50% ที่อันดับความเชื่อถือของสหรัฐจะถูกปรับลดจากระดับสูงสุดที่ AAA ในช่วงสามเดือนจากนี้ พร้อมกับประกาศเครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบแก่อันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวและระยะสั้นของสหรัฐ โดยเตือนว่า S&P อาจจะลดอันดับเครดิตหนึ่งขั้นหากยังไม่มีการบรรลุข้อตกลงเรื่องเพดานหนี้ของรัฐบาลสหรัฐในเร็วๆนี้

ทางการสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ รวมถึงข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนมิ.ย., ยอดขายบ้านมือสองเดือนมิ.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนมิ.ย. และผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจเดือนก.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ