นายอภิชาติ ลักษณะสิริศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท คลาสสิก โกลด์ฟิวเจอร์ จำกัด เปิดเผยว่า ทิศทางราคาทองคำมีโอกาสไต่ระดับไปถึง 1,700 ดอลลาร์/ออนซ์ในไม่ช้านี้ หลังจากทะลุผ่านระดับ 1,600 ดอลลาร์/ออนซ์เร็วกว่าที่คาดกันไว้ แต่ต้องขึ้นกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของยุโรปและสหรัฐ หากเกิดกรณีผิดนัดชำระหนี้ขึ้นมาจริงๆ โดยเฉพาะสหรัฐ อาจได้เห็นราคาทองคำแตะระดับ 2,000 ดอลลาร์/ออนซ์ในปีนี้
"ปัญหาในสหรัฐฯ หนักหนาสาหัสมากกว่าปัญหาในยุโรป ถ้ารัฐบาลสหรัฐฯไม่สามารถใช้คืนหนี้พันธบัตรที่จะครบกำหนดชำระในเดือนสิงหาคมนี้ หรือไม่ขยายเพดานหนี้...คือไม่ว่าจะยังไงราคาทองคำก็จะยังมีทิศทางเป็นขาขึ้นต่อไปจนถึงปีหน้า"นายอภิชาติ กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
นายอภิชาติ กล่าวว่า ขณะนี้ทุกประเทศต่างเร่งเก็บทองคำเข้าคลัง เช่น จีน อินเดีย ซึ่งเป็นประเทศที่ชอบทองคำมากเป็นพิเศษ ทำให้ยอดขายทองคำพุ่งสูงทุกไตรมาส
อนึ่ง วานนี้ราคาทองที่ตลาดสหรัฐทะยานขึ้นสู่สถิติสูงสุดเหนือ 1,600 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยปรับขึ้นเป็นวันที่ 11 ติดต่อกัน
สำหรับราคาทองคำที่ทำนิวไฮทะลุ 1,600 ดอลาร์/ออนซ์นั้น นายอภิชาติ ระบุว่า เกิดจาก 2 ปัจจัย คือ ภาวะหนี้สินของรัฐบาลในยุโรปต่างๆ ไล่จากกรีซ สุดท้ายลุกลามไปถึงอิตาลีและสเปน ทำให้นักลงทุนขาดความมั่นใจในการลงทุนสินทรัพย์เสี่ยง ขณะที่ทองเป็นสินทรัพย์ที่ค่อนข้างมั่นคงในการลงทุน ทำให้นักลงทุนหันจากการถือครองพันธบัตรหรือหุ้น มาถือครองทองคำแทน
ปัจจัยที่ 2 คือ สหรัฐอเมริกากำลังจะหารือเรื่องการขยายเพดานหนี้ ซึ่งจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีข้อสรุป และต่อให้หาข้อยุติได้แต่ก็อาจเป็นเพียงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ไม่ใช่การแก้ปัญหาระยะยาว เพราะเป็นการเพิ่มหนี้สินช่วงสั้นๆ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาผิดนัดชำระหนี้ที่จะครบกำหนดในเดือนสิงหาคมนี้เท่านั้น
"ปัญหานี้ไม่ว่ารัฐบาลสหรัฐอเมริกาจะจบด้วยการขยายเพดานหนี้ไม่ให้ bond default แต่ระยะยาวก็ยังแก้ไม่ได้อยู่ดี และถ้าเลวร้ายกว่านั้นคือไม่มีการเพิ่มเพดานหนี้ สหรัฐอเมริกา default จริงๆ ราคาทองคำจะไปได้อีกไกล"นายอภิชาติ กล่าว