ราคาผลิตภัณฑ์เหล็กในจีนยังคงปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อวานนี้ หลังจากที่เดินหน้าขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากการก่อสร้างโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้ต่ำทำให้ความต้องการเหล็กสำหรับการก่อสร้างเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูร้อน ซึ่งปกติจะเป็นช่วงที่ความต้องการใช้งานเหล็กไม่สูงนัก
ขณะเดียวกัน การดับไฟฟ้าบางส่วนและการปิดโรงงานที่ล้าสมัยก็มีส่วนทำให้ราคาเหล็กสูงขึ้นด้วยเช่นกัน
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สต็อกผลิตภัณฑ์เหล็กในตลาดทั่วประเทศโดยรวมร่วงลงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ราคาเหล็กในตลาดล่วงหน้าอยู่ที่ระดับสูง ซึ่งบ่งชี้ถึงแนวโน้มที่เป็นบวกของนักลงทุนต่อตลาดในช่วงดังกล่าว
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนเปิดเผยว่า ผลผลิตเหล็กดิบรายวันของจีนในเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 2.8% จากเดือนพ.ค.แตะระดับสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 1.99 ล้านตัน ขณะที่ผลผลิตเหล็กรายวันในช่วงครึ่งปีแรกอยู่ที่ 1.93 ล้านตัน
นักวิเคราะห์ของซิเปิน นิว ไลน์ มองว่า อุปทานจำนวนมากไม่ได้ทำให้สต็อกเพิ่มขึ้นมาก และก็ไม่ได้ทำให้ราคาเหล็กร่วงลง แต่เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการผลิตภัณฑ์เหล็กจำนวนมากและการซื้อขายอย่างคึกคักในตลาด
นักวิเคราะห์หลายรายกล่าวว่า หากรัฐเร่งดำเนินโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้ต่ำ ก็จะทำให้ความต้องการเหล็กอยู่ในช่วงขาขึ้นต่อไป และทำให้กำไรในกลุ่มผู้ผลิตเหล็กสูงขึ้นตามไปด้วย
ด้านบุคคลวงในบางส่วนมองว่า ไม่มีใครสงสัยว่า จีนจะสามารถดำเนินการตามเป้าหมายในการเริ่มต้นสร้างอพาร์ทเมนท์สำหรับผู้มีรายได้ต่ำจำนวน 10 ล้านยูนิตได้ในปีนี้หรือไม่ แต่นักลงทุนกำลังสนใจว่าจะมีกี่โครงการที่สามารถดำเนินการแล้วเสร็จ
นอกจากนี้ ปัจจัยอื่นๆที่มีส่วนหนุนราคาเหล็กก็คือ เป้าหมายในการปิดโรงงานเก่าของรัฐบาลในปีนี้ โดยกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศของจีนประกาศรายชื่อบริษัทที่ต้องปิดโรงงานที่ล้าสมัยของตนเองภายในช่วงสิ้นปีนี้ ซึ่งรายชื่อดังกล่าวประกอบด้วยธุรกิจสินแร่เหล็กจำนวน 96 แห่งซึ่งจะทำให้กำลังการผลิตหายไป 31.22 ล้านตัน และบริษัทผู้ผลิตเหล็ก 58 แห่ง ที่จะทำให้กำลังการผลิตหายไป 27.94 ล้านตัน