ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นกว่า 200 จุดเมื่อคืนนี้ (19 ก.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทเอกชน รวมถึงอินเตอร์เนชันแนล บิสิเนส แมชีนส์ (IBM) และโคคา-โคลา นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากตัวเลขสร้างบ้านที่พุ่งขึ้นเกินคาดในสหรัฐ และข่าวที่ว่าวุฒิสมาชิก 6 คนของสหรัฐได้ให้การสนับสนุนแผนการลดยอดขาดดุลที่เสนอโดยประธานาธิบดีบารัค โอบามา ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนคาดว่ารัฐสภาสหรัฐอาจจะให้ความเห็นชอบในเรื่องการปรับเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลกลางสหรัฐในไม่ช้านี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ทะยานขึ้น 202.26 จุด หรือ 1.63% ปิดที่ 12,587.42 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 21.29 จุด หรือ 1.63% ปิดที่ 1,326.73 จุด และดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้น 61.41 จุด หรือ 2.22% ปิดที่ 2,826.52 จุด
-- สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (19 ก.ค.) เนื่องจากการอ่อนค่าลงของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐและการพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งของตลาดหุ้นนิวยอร์กได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาน้ำมันดิบอย่างคึกคัก นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากตัวเลขการสร้างบ้านที่พุ่งขึ้นเกินคาดของสหรัฐ และผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทเอกชน รวมถึงอินเตอร์เนชันแนล บิสิเนส แมชีนส์ (IBM)
สัญญน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ปรับตัวขึ้น 1.57 ดอลลาร์ ปิดที่ 97.50 ดอลลาร์/บาร์เรล
-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (19 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันก่อน นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงลดความต้องการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากมีข่าวคืบหน้าเกี่ยวกับข้อตกลงการลดยอดขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลสหรัฐ และตัวเลขการสร้างบ้านที่พุ่งขึ้นเกินคาดในสหรัฐ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ปรับตัวลง 1.3 ดอลลาร์ หรือ 0.1% ปิดที่ 1,601.1 ดอลลาร์/ออนซ์
-- สกุลเงินยูโรดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (19 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคาดว่าการประชุมฉุกเฉินของผู้นำยูโรโซนในวันพฤหัสบดีนี้ ที่ประชุมจะสนับสนุนมาตรการให้ความช่วยเหลือกรีซครั้งใหม่ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนและฟรังค์สวิส เพราะได้แรงหนุนจากข่าวคืบหน้าเกี่ยวกับข้อตกลงการปรับลดงบประมาณของรัฐบาลสหรัฐ
ค่าเงินยูโรดีดตัวขึ้น 0.22% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.4140 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4109 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้น 0.42% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.6119 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6051 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น 0.23% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 79.220 เยน จากระดับ 79.040 เยน และพ่งขึ้น 0.82% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8243 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8176 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 1.08% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0722 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0607 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 1.27% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8554 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8447 ดอลลาร์สหรัฐ
-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (19 ก.ค.) ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นครั้งแรกในรอบ 4 วันทำการ หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการสร้างบ้านที่เพิ่มขึ้นเกินคาด และบริษัทเอกชนของสหรัฐรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่ง ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลก
ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 5789.99 จุด บวก 37.18 จุด