สถาบันวิจัยส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) จะยังคงตกต่ำในช่วงระยะเวลาที่เหลือของปีนี้ ในขณะที่มีกระแสคาดการณ์เพิ่มมากขึ้นว่า ผลผลิตน้ำมันปาล์มจะปรับตัวสูงขึ้น และผลกระทบจากการคุมเข้มนโยบายการเงินในประเทศผู้นำเข้าน้ำมันปาล์มรายใหญ่ของเอเชียบางประเทศ เริ่มส่งผลกระทบต่ออุปสงค์สินค้าโภคภัณฑ์ดังกล่าว
ราคาน้ำมันปาล์มดิบปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ถึงการเพิ่มขึ้นของสต็อกน้ำมันปาล์มเมื่อเทียบเป็นรายเดือนในเดือนกรกฎาคม ขณะที่ภาพรวมการส่งออกน้ำมันปาล์มจากกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังคงขยายตัวในเดือนมิถุนายน แต่การส่งออกไปยังประเทศจีนซึ่งเป็นผู้บริโภครายใหญ่กลับปรับตัวลดลงในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งอาจเป็นเพราะมีการระบายสต็อกพืชให้น้ำมันราคาถูกให้แก่บริษัทแปรรูปบางแห่งในประเทศเพื่อควบคุมภาวะเงินเฟ้อ
สถาบันวิจัยซีไอเอ็มบีเชื่อว่า ราคาน้ำมันปาล์มดิบจะยังคงตกต่ำลงในเดือนที่ผลผลิตน้ำมันปาล์มพุ่งแตะระดับสูงสุดจากสต็อกผลผลิตที่มีจำนวนเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม แม้จะมีกระแสคาดการณ์ถึงผลผลิตที่พุ่งสูงขึ้น และสต็อกน้ำมันที่มีอยู่สูงในประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่อย่างมาเลเซียในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ แต่ราคาน้ำมันปาล์มดิบในปีนี้จนถึงช่วงที่ผ่านมาก็ไม่ได้ร่วงลงไปมากนัก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเพราะผลผลิตที่ตึงตัว และความกังวลต่อสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยในยุโรป จีน และสหรัฐอเมริกา
ราคาน้ำมันปาล์มที่ปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับน้ำมันถั่วเหลืองเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมานั้นอาจกระตุ้นอุปสงค์น้ำมันปาล์มได้ในระยะสั้นๆ แต่ทางสถาบันวิจัยซีไอเอ็มบีคาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันอาจยังตกต่ำอยู่ เนื่องจากการคุมเข้มด้านนโยบายการเงินที่ต่อเนื่องในจีนและอินเดียบั่นทอนอุปสงค์จากผู้นำเข้าน้ำมันปาล์มดิบรายใหญ่ ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคชะลอการซื้อออกไปเพราะคาดว่าราคาขายจะปรับตัวลดลงในอนาคต
ด้านสถาบันวิจัยเครดิตสวิสเห็นด้วยว่า ผลผลิตที่แข็งแกร่งในอีก 2 - 3 ไตรมาสนี้จะสร้างแรงกดดันในแง่ลบต่อราคาน้ำมันปาล์มดิบ โดยระบุว่า ผลผลิตเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งเป็นระยะเวลาเฉลี่ย 11 เดือน และขณะนี้เราเพิ่งจะอยู่แค่เดือนที่ 3 ของช่วงเวลาที่มีผลผลิตจำนวนมาก ซึ่งจะยังเหลือเวลาอีก 3 ไตรมาส
ในเดือนรอมฎอนที่กำลังจะมาถึงนี้อาจกระตุ้นยอดส่งออกในปลายปีนี้และเดือนสิงหาคม เนื่องจากเป็นฤดูกาลที่มักมีการส่งออกน้ำมันปาล์มไปยังตะวันออกกลางและปากีสถานเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ น้ำมันปาล์มซึ่งปัจจุบันซื้อขายในราคาที่ถูกลง 18% เมื่อเทียบกับน้ำมันถั่วเหลืองนั้นยังทำให้ผู้นำเข้าบางรายเปลี่ยนจากการซื้อน้ำมันพืชที่มีราคาแพงกว่ามาซื้อน้ำมันปาล์มแทน อย่างไรก็ตาม เครดิตสวิสแย้งว่า สภาวการณ์เช่นนี้เป็นปัจจัยบวกในระยะสั้นๆ ซึ่งไม่ใช่ปัจจัยหลักที่กำหนดทิศทางของราคาน้ำมันปาล์มในระยะกลาง
ด้านสถาบันวิจัยโนมูระมีมุมมองในทางตรงกันข้ามว่า ราคาน้ำมันปาล์มดิบในขณะนี้อาจซึมซับปัจจัยด้านผลผลิตที่เพิ่มขึ้นในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ไปแล้ว และจะได้รับปัจจัยหนุนจากราคาน้ำมันดิบยังทรงตัวในระดับสูง ในขณะที่เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง
ตัน ชี หมิง สำนักข่าวซินหัวรายงาน