ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ยูโรพุ่ง ขณะตลาดจับตาประชุมผู้นำยูโรโซนวันนี้

ข่าวต่างประเทศ Thursday July 21, 2011 07:17 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (20 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคาดว่าที่ประชุมฉุกเฉินกลุ่มผู้นำยูโรโซนซึ่งจะมีขึ้นในช่วงเย็นวันพฤหัสบดีที่เมืองบรัสเซลล์ของเบลเยียมนั้น อาจจะมีการประกาศใช้มาตรการที่จะสามารถยับยั้งการลุกลามของวิกฤตหนี้ยุโรป และคาดว่าที่ประชุมจะสนับสนุนแผนการให้ความช่วยเหลือกรีซรอบสอง ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับเงินเยนและสกุลเงินอื่นๆ เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับเพดานหนี้ของรัฐบาลสหรัฐ และรายงานยอดขายบ้านมือสองที่ร่วงลงเกินคาด

ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้น 0.46% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.4220 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันอังคารที่ 1.4155 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์พุ่งขึ้น 0.17% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.6159 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6132 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.42% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 78.770 เยน จากระดับ 79.100 เยน และดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.56% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.8195 ฟรังค์ จากระดับ 0.8241 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.11% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0741 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0729 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ขยับขึ้น 0.08% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8562 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8555 ดอลลาร์สหรัฐ

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สกุลเงินยูโรดีดตัวขึ้นเนื่องจากนักลงทุนคาดว่า ที่ประชุมฉุกเฉินของผู้นำยูโรโซนในช่วงเย็นวันพฤหัสบดีนี้ จะมีการบรรลุข้อตกลงการให้ความช่วยเหลือกรีซรอบสอง หลังจากที่กรีซได้รับความช่วยเหลือรอบแรกไปแล้วกว่า 1.10 แสนล้านยูโร (1.56 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) จากอียู และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เมื่อปีที่แล้ว นอกจากนี้คาดว่าที่ประชุมจะวางแนวทางการป้องกันไม่ให้วิกฤตหนี้ลุกลามในอนาคต

ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงกดดันจากการที่รัฐบาลสหรัฐเหลือเวลาอีกไม่มาก เนื่องจากกำหนดเส้นตายของการปรับเพิ่มเพดานหนี้ในวันที่ 2 ส.ค.กำลังใกล้เข้ามา ขณะที่กระทรวงการคลังสหรัฐระบุว่า สหรัฐอาจจะต้องผิดนัดชำระหนี้หากไม่มีการปรับเพิ่มเพดานหนี้ภายในวันที่ 2 ส.ค. หลังจากที่ตัวเลขหนี้สินของสหรัฐพุ่งชนเพดานที่ 14.29 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 16 พ.ค.

นอกจากนี้ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐยังได้อ่อนตัวลงหลังจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) รายงานว่า ยอดขายบ้านมือสองเดือนมิ.ย.ของสหรัฐปรับตัวลง 0.8% สู่ระดับ 4.77 ล้านยูนิตต่อปี ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน หลังจากจำนวนการยกเลิกการทำสัญญาปรับตัวสูงขึ้น

ส่วนเงินปอนด์ดีดตัวขึ้นเล็กน้อย หลังจากที่ร่วงลงอย่างหนักในระหว่างวัน ภายหลังจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางอังกฤษระบุว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางได้ตัดสินใจตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 0.5% และคาดว่าอาจจะตรึงดอกเบี้ยต่อไปจนถึงปีหน้าเนื่องจากเศรษฐกิจยังคงชะลอตัว

ทางการสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนมิ.ย. และผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจเดือนก.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ