กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) กระตุ้นให้จีนเดินหน้าคุมเข้มนโยบายการเงินต่อไป เพื่อป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจขยายตัวร้อนแรงเกินไป และเพื่อหนุนสกุลเงินหยวนให้แข็งค่าขึ้นอีก
คณะกรรมการบริหารของไอเอ็มเอฟระบุในแถลงการณ์ภายหลังจากเข้าร่วมประชุมด้านนโยบายประจำปีกับทางการจีนว่า จีนยังมีโอกาสที่จะใช้นโยบายคุมเข้มการเงินเพิ่มเติม ผ่านการพึ่งพาอัตราดอกเบี้ยมากขึ้น ตลอดจนการปล่อยให้เงินหยวนแข็งค่า
"แม้ว่ามีการคาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อจะชะลอตัวลงอันเนื่องมาจากการคุมเข้มนโยบายการเงินอย่างต่อเนื่อง แต่ความเสี่ยงช่วงขาขึ้นก็ยังคงมีอยู่ โดยเฉพาะจากราคาอาหารและสินค้าโภคภัณฑ์ที่สูงขึ้น" ไอเอ็มเอฟระบุ
สำหรับอัตราแลกเปลี่ยนนั้น ไอเอ็มเอฟระบุว่า แม้ว่าเงินหยวนแข็งค่าขึ้นอีก 5.5% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐในช่วงปีที่ผ่านมา แต่เงินหยวนกลับอ่อนค่าลงทั้ง nominal term และ real term
นอกจากนี้ ไอเอ็มเอฟยังระบุด้วยว่า ในระยะกลางนั้น เงินหยวนที่แข็งค่าขึ้นจะเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของการสร้างสมดุลให้กับเศรษฐกิจจีน พร้อมกับชี้ว่า แนวโน้มการขยายตัวในระยะใกล้ของจีนจะยังคงสดใสและขับเคลื่อนด้วยตัวเองมากขึ้น เนื่องจากได้รับปัจจัยหนุนจากการปรับโครงสร้าง
ไอเอ็มเอฟคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนจะขยายตัว 9.6% ในปีนี้ และ 9.5% ในปีหน้า เมื่อเปรียบเทียบกับที่ขยายตัว 10.3% ในปี 2553 ส่วนราคาผู้บริโภค คาดว่าจะขยายตัวเฉลี่ย 4.7% ในปีนี้ เพิ่มขึ้นจากระดับ 3.3% ในปีที่แล้ว นอกจากนี้ ไอเอ็มเอฟยังประเมินว่า ราคาผู้บริโภคของจีนจะขยายตัวเฉลี่ย 3.3% ในปีหน้า