สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (21 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนลดความต้องการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยหลังจากมีรายงานว่า ผู้นำเยอรมนีและฝรั่งเศสร่วมสนับสนุนแผนการกู้วิกฤตหนี้สาธารณะในยุโรป ขณะที่สัญญาทองแดงร่วงลงหลังจากมีรายงานว่า ภาคการผลิตของจีนชะลอตัวลง
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ร่วงลง 9.90 ดอลลาร์ หรือ 0.6% ปิดที่ 1,587.00 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,584.90-1,605.00 ดอลลาร์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 61.1 เซนต์ ปิดที่ 38.947 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 5.25 เซนต์ ปิดที่ 4.3835 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.พุ่งขึ้น 11.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,787.80 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.พุ่งขึ้น 15.35 ดอลลาร์ ปิดที่ 809.00 ดอลลาร์/ออนซ์
สำนักข่าวซินหัวรายงานโดยอ้างความเห็นของเทรดเดอร์ในตลาดทองคำนิวยอร์กว่า นักลงทุนลดการถือครองทองคำหลังจากนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคล ของเยอรมนี และประธานาธิบดีนิโกลาส์ ซาร์โกซี ของฝรั่งเศส บรรลุข้อตกลงร่วมกันในการให้ความช่วยเหลือทางการเงินรอบใหม่กับกรีซ ก่อนที่การประชุมผู้นำยูโรโซนจะเริ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางกลุ่มเชื่อว่า ราคาทองคำจะยังคงได้รับแรงหนุนจากการที่นักลงทุนบางกลุ่มวิตกกังวลว่า แผนการให้ความช่วยเหลือกรีซอาจไม่เพียงพอที่จะทำให้ตลาดมีความเชื่อมั่นในระบบการเงินของยุโรป ทั้งนี้ แม้สัญญาทองคำปิดในแดนลบ แต่ตลาดก็ได้รับแรงหนุนในระหว่างวันหลังจาก ดัชนีดอลลาร์ (Dollar Index) ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับ 6 สกุลเงินที่เป็นคู่ค้าหลักของสหรัฐ ร่วงลงเมื่อวานนี้
ส่วนสัญญาโลหะทองแดงร่วงลงหลังจากดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีนในเดือนก.ค. ซึ่งสำรวจโดยเอชเอสบีซี และมาร์กิต อิโคโนมิคส์ ร่วงมาอยู่ที่ระดับ 48.9 จากระดับ 50.1 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบปีที่ภาคการผลิตของจีนหดตัวลง