นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ในตลาดวอลล์สตรีทคาดว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 2 ปี 2554 ของสหรัฐจะขยายตัวราว 1.8% ซึ่งชะลอตัวลงจากไตรมาสแรกที่ขยายตัว 1.9% และเป็นอัตราการขยายตัวที่ช้าที่สุดในรอบหลายปี เนื่องจากต้นทุนราคาเชื้อเพลิงที่สูงขึ้นทำให้ผู้บริโภคลดการใช้จ่าย
ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภค ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนถึง 70% ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐ ขยายตัวที่ระดับ 0.8% ต่อปี ในช่วงเดือนเม.ย.-มิ.ย. ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่ช้าที่สุดนับตั้งแต่ช่วงเดือนเม.ย.-มิ.ย.ปี 2552 เนื่องจากผู้บริโภคลดการจับจ่ายใช้สอยหลังจากราคาน้ำมันเบนซินและอาหารปรับตัวสูงขึ้น โดยสมาคมผู้ผลิตยานยนต์แห่งสหรัฐ (AAA) เปิดเผยว่า ราคาน้ำมันเบนซินโดยเฉลี่ยพุ่งขึ้นแตะระดับ 4 ดอลลาร์/แกลลอนในเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปี
นอกจากนี้ ภาวะซบเซาของตลาดแรงงานยังเป็นอีกปัจจัยที่อาจจะส่งผลให้จีดีพีไตรมาส 2 ของสหรัฐขยายตัวช้าลงด้วย โดยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนมิ.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียง 18,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นน้อยที่สุดในรอบ 9 เดือน และน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะพุ่งขึ้น 90,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราว่างงานเดือนมิ.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 9.2% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน จากเดือนพ.ค.ที่ระดับ 9.1%
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขประมาณจีดีพีประจำไตรมาส 2 ปี 2554 ในช่วงค่ำวันศุกร์นี้ ตามเวลาประเทศไทย