เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค คาดการณ์ว่า แผนการปรับลดการขาดดุลงบประมาณที่กลายมาเป็นปัญหาค้างคาทางการเมืองของสหรัฐนั้น อาจทำให้สหรัฐต้องสูญเสียอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ AAA และทำให้รัฐบาลสหรัฐต้องแบกรับความเสียหายเป็นเงินสูงถึง 1 แสนล้านดอลลาร์/ปี ซึ่งจะฉุดรั้งการขยายตัวของเศรษฐกิจ
เจพีมอร์แกนระบุว่า การปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐจะทำให้ต้นทุนการกู้ยืมของสหรัฐสูงขึ้น โดยจะทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรพุ่งขึ้นประมาณ 0.60-0.70% ในระยะกลาง
มูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส เตือนว่าอาจจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ เนื่องจากมีความเป็นไปได้มากขึ้นว่า รัฐสภาสหรัฐจะไม่ปรับเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลกลางได้ทันกำหนดเส้นตายวันที่ 2 ส.ค.นี้ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวจะทำให้สหรัฐเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้
ขณะที่สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ หรือ เอสแอนด์พี เตือนว่ามีโอกาส 50% ที่อันดับความเชื่อถือของสหรัฐจะถูกปรับลดจากระดับสูงสุดที่ AAA ในช่วงสามเดือนจากนี้ หากรัฐสภาสหรัฐยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงปรับเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลได้
ผู้นำพรรครีพับลิกันและเดโมแครตยังไม่สามารถตกลงกันได้เรื่องการปรับเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลกลาง โดยพรรครีพับลิกันพยายามผลักดันแผน 2 ขั้นตอนที่จะปรับเพดานหนี้ของรัฐบาลกลางเพิ่มขึ้นอีกราว 1 ล้านล้านดอลลาร์ในทันที ขณะที่พรรคเดโมแครตกลับไม่เห็นด้วย และพยายามผลักดันให้รัฐบาลลดยอดขาดดุลงบประมาณลงอีก 2.7 ล้านล้านดอลลาร์ ก่อนที่จะมีการปรับเพิ่มเพดานหนี้ภายหลังการเลือกตั้งในปีหน้า