นายเจย์ คาร์นีย์ โฆษกทำเนียบขาวกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่ผู้นำในสภาคองเกรสจะประนีประนอมในการเจรจาเรื่องการปรับเพิ่มเพดานหนี้ หากเจ้าหน้าที่สภานิติบัญญัติจากทั้งพรรครีพับลิกันและเดโมแครต เล็งเห็นความสำคัญของเศรษฐกิจสหรัฐเป็นหลัก
"หากทุกคนมีเป้าหมายที่จะปกป้องประชาชนชาวอเมริกันไม่ให้ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ ทั้งสองพรรคก็จะยอมประนีประนอมในเรื่องนี้ เรายังคงมีความเชื่อและมีมุมมองที่เป็นบวกว่า สภาคองเกรสจะตระหนักในเหตุผลและยอมประนีประนอมซึ่งกันและกัน" นายคาร์นีย์กล่าวกับผู้สื่อข่าว
นอกจากนี้ นายคาร์นีย์เรียกร้องให้พรรครีพับลิกันและเดโมแครตร่วมกันผลักดันให้ร่างกฎหมายการปรับเพิ่มเพดานหนี้สามารถผ่านความเห็นชอบได้ทั้งสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา เพื่อที่ประธานาธิบดีโอบามาจะลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไป
สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเริ่มมติว่าจะรับหรือไม่รับร่างกฎหมายปรับเพิ่มเพดานหนี้ที่เสนอโดยนายจอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ซึ่งก่อนหน้านี้วุฒิสมาชิกสังกัดพรรคเดโมแครตทั้ง 51 ราย และวุฒิสมาชิกอิสระอีก 2 รายได้ลงนามในจดหมายเพื่อคัดค้านมาตรการดังกล่าว
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สหรัฐมียอดเงินกู้ชนเพดานหนี้ที่ระดับ 14.29 ล้านล้านดอลลาร์ไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 16 พ.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่กระทรวงคลังสหรัฐระบุว่า สหรัฐอาจผิดนัดชำระหนี้หากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการปรับเพิ่มเพดานหนี้ได้ทันก่อนกำหนดเส้นตายในวันที่ 2 ส.ค.นี้