ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (28 ก.ค.) ขณะที่นักลงทุนจับตาดูผลการลงมติร่างกฎหมายปรับเพิ่มเพดานหนี้ที่เสนอโดยนายจอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ขณะที่ค่าเงินยูโรอ่อนตัวลงหลังจากดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของยุโรปร่วงลง อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการลุกลามของปัญหาหนี้ยุโรป
ค่าเงินยูโรร่วงลง 0.36% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.4314 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพุธที่ 1.4365 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ค่าเงินปอนด์แข็งค่าขึ้น 0.13% เมื่อเที่ยบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.6352 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6331 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.27% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 77.760 เยน จากระดับ 77.970 เยน และอ่อนตัวลง 0.01% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.8012 ฟรังค์ จากระดับ 0.8011 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 0.31% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0989 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1023 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ทรงตัวที่ 0.8695 ดอลลาร์นิวซีแลนด์
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร ขณะที่นักลงทุนจับตาดูการลงมติร่างกฎหมายการเพิ่มเพดานหนี้ของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ซึ่งร่างกฏหมายดังกล่าวเสนอโดยนายจอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ
นายเจย์ คาร์นีย์ โฆษกทำเนียบขาวกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่ผู้นำในสภาคองเกรสจะประนีประนอมในการเจรจาเรื่องการปรับเพิ่มเพดานหนี้ หากเจ้าหน้าที่สภานิติบัญญัติจากทั้งพรรครีพับลิกันและเดโมแครต เล็งเห็นความสำคัญของเศรษฐกิจสหรัฐเป็นหลัก นอกจากนี้ นายคาร์นีย์เรียกร้องให้พรรครีพับลิกันและเดโมแครตร่วมกันผลักดันให้ร่างกฎหมายการปรับเพิ่มเพดานหนี้สามารถผ่านความเห็นชอบได้ทั้งสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา เพื่อที่ประธานาธิบดีโอบามาจะลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไป
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐได้แรงหนุนจากรายงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐที่ว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 23 ก.ค. ลดลง 24,000 ราย สู่ระดับ 398,000 ราย ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ต้นเดือนเม.ย.ที่จำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์เคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 400,000 ราย
ขณะที่ค่าเงินยูโรร่วงลงหลังจากมีรายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริหารและผู้บริโภคในยูโรโซน ร่วงลงมาอยู่ที่ระดับ 103.2 จุด จากระดับในเดือนมิ.ย.ที่ได้มีการทบทวนไว้ที่ 105.4 จุด ซึ่งถือเป็นสถิติต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2553 เนื่องจากวิกฤตหนี้ที่ย่ำแย่ส่งผลกระทบต่อแนวโน้มการเติบโตของกลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร
ส่วนค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ทรงตัวหลังจากธนาคารกลางนิวซีแลนด์ตัดสินใจตรึงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 2.5% ในการประชุมเมื่อวานนี้ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่เปราะบางและความไม่แน่นอนของการปรับเพิ่มเพดานหนี้สหรัฐยังคงกดดันการขยายตัวของเศรษฐกิจนิวซีแลนด์
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลการเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งแรกของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 2 ของสหรัฐในคืนนี้ตามเวลาประเทศไทย โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า จีดีพีไตรมาส 2 จะขยายตัวเพียง 1.8% ซึ่งชะลอตัวลงจากไตรมาสแรกที่ขยายตัว 1.9% และเป็นอัตราการขยายตัวที่ช้าที่สุดในรอบหลายปี