ศูนย์วิจัยกสิกรฯ คาดส่งออกไทยไปจีนปี 54 ชะลอตัวจากปีก่อนเหลือ 10-15%

ข่าวเศรษฐกิจ Friday July 29, 2011 17:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่าภาพรวมการส่งออกของไทยไปจีนในปี 54 อาจจะชะลอตัวลงจากปี 53 ที่สูงถึง 33.2% แต่ยังอาจะเติบโตได้ในระดับ 10-15% จากการปรับเพิ่มค่าจ้างแรงงานในหลายมณฑลของจีนและต้นทุนวัตถุดิบ รวมไปถึงปัญหาอัตราเงินเฟ้อที่ล่าสุดยังคงพุ่งทะยานเป็น 6.4% ในเดือน มิ.ย.54 สูงสุดในรอบ 3 ปี

ทั้งนี้ภาวะดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อทิศทางการเติบโตทางเศรษฐกิจจีนในช่วงที่เหลือของปีนี้ ทั้งภาระค่าใช้จ่ายของผู้บริโภคและภาระต้นทุนของภาคการผลิต โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจขนาดเล็กที่อาจต้องเผชิญปัญหายุ่งยากมากขึ้นจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่ส่อแววล่าช้า รวมไปถึงการเข้าถึงแหล่งเงินกู้ธนาคารที่ค่อนข้างจำกัดสำหรับกลุ่มธุรกิจ SMEs ราคาสินค้าโภคภัณฑ์และต้นทุนด้านแรงงานที่มีแนวโน้มทรงตัวในระดับสูง อีกทั้งยังมีการปรับขึ้นค่าไฟฟ้าสำหรับภาคธุรกิจใน 15 เมืองทั่วประเทศซึ่งเริ่มมีผลเมื่อวันที่ 1 มิ.ย.54 ทำให้ภาคอุตสาหกรรมโดยรวมของจีนในปีนี้มีโอกาสค่อนข้างมากที่จะขยายตัวในอัตราชะลอลงจากปีที่ผ่านมา และอาจส่งผลกระทบต่อความต้องการสินค้าวัตถุดิบ และสินค้ากึ่งสำเร็จรูปจากไทยตามมาได้

สำหรับ H1/54 ไทยส่งออกไปจีนยังคงแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น 23.8% จากการที่จีดีพีของจีนในไตรมาสที่ 2/54 ยังสามารถเติบโตได้ที่ระดับ 9.5% ทำให้เศรษฐกิจจีนในครึ่งแรกปี 2554 เติบโต 9.6% ซึ่งแม้จะชะลอตัวลงเมื่อเปรียบเทียบกับระดับ 11.1% ในครึ่งแรกปี 53 แต่ก็ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ ทั้งที่มีแรงกดดันจากเงินเฟ้อและมาตรการคุมเข้มทางการเงินของรัฐบาลจีน

ดังนั้นจึงส่งผลบวกให้การส่งออกของไทยไปจีนในช่วงครึ่งแรกปี 2554 ยังคงเติบโต 23.8% โดยที่การส่งออกจากไทยไปจีนในเดือนมิ.ย.54 ขยายตัวเร่งขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ในอัตรา 25.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน แตะมูลค่า 2,214.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งใกล้เคียงกับสถิติสูงสุดระดับ 2,344.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในเดือนมี.ค.2554

กลุ่มสินค้าเกษตรก้าวขึ้นมามีบทบาทสำคัญใน H1/2554 ด้วยอัตราการเติบโตสูงสุดที่ 52.4% ซึ่งนำโดยสินค้ายางพารา ข้าว ผลไม้สดแช่เย็น แช่แข็งและแห้ง ขณะที่กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมการเกษตรเองก็ส่งออกได้เพิ่มมากขึ้น เช่น น้ำตาลทราย ผลไม้กระป๋องและแปรรูป ผลิตภัณฑ์ข้าวสาลี เครื่องเทศสมุนไพร และสิ่งปรุงรส เป็นต้น

"ยอดขาดดุลครึ่งแรกปี 54 พุ่งแตะ 2,374.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แม้ว่าการส่งออกของไทยไปจีนในช่วงครึ่งแรกปีนี้จะจะสามารถสร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือน มี.ค.2554 และเติบโตได้ดีเกินคาดที่ 23.8% แต่การนำเข้าจากจีนใน H1/2554 ก็เร่งตัวขึ้นเช่นกัน โดยการนำเข้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มสินค้าทุนคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 40% ของมูลค่าการนำเข้าโดยรวมในช่วงครึ่งแรกปี 2554" เอกสารเผยแพร่ ระบุ

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่ามณฑลกวางตุ้งก็จะยังคงเป็นคู่ค้าที่สำคัญของไทยอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับมณฑลที่ใกล้ชิดกับไทย อาทิ เสฉวน ยูนนานและกวางสีที่น่าจะก้าวขึ้นมามีบทบาทการการค้ากับไทยมากยิ่งขึ้นนับจากนี้ เนื่องด้วยเส้นทางการขนส่งที่มีความสะดวก ประกอบกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมฉบับที่ 12 ของจีนที่ได้มุ่งเน้นกระตุ้นการบริโภคในประเทศเป็นสำคัญ รวมไปถึงการกระจายความเจริญสู่มณฑลตอนในและตะวันตก ที่น่าจะเป็นส่วนสำคัญที่ผลักดันให้การบริโภคภายในจีนมีโอกาสแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น

ดังนั้น สินค้าจากไทยซึ่งได้รับความนิยมจากจีนพอสมควรก็น่าจะได้อานิสงส์ตามไปด้วย ซึ่งนอกจากสินค้าอุปโภคบริโภคจะขยายตัวแล้ว สินค้าวัตถุดิบขั้นกลางและสินค้าทุนก็มีโอกาสเติบโตด้วยเพราะกวางตุ้งเองก็นับเป็นแหล่งลงทุนที่สำคัญแห่งหนึ่งของจีน ขณะที่กวางสีก็ถูกวางให้เป็นประตูสู่อาเซียน และมีการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างเต็มที่เพื่อรองรับการลงทุนและการค้ากับนานาประเทศ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ