ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์แนวโน้มเงินบาทในสัปดาห์ถัดไป (1-5 ส.ค.54) คาดว่า เงินบาทอาจเคลื่อนไหวในกรอบ 29.50-29.90 บาท/ดอลลาร์ฯ โดยคงต้องจับตาความคืบหน้าในเรื่องการขยับเพดานหนี้ของสหรัฐฯ ก่อนเส้นตายวันที่ 2 ส.ค. ซึ่งจะผูกพันกับผลการลงมติร่างกฎหมายการปรับลดงบประมาณระยะยาวของประเทศ
ตลอดจนการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขตลาดแรงงาน ดัชนี ISM ภาคการผลิต และภาคบริการเดือนก.ค. ยอดสั่งซื้อของโรงงาน รายได้-รายจ่ายส่วนบุคคล ดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคส่วนบุคคลพื้นฐาน ค่าใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนมิ.ย. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
นอกจากนี้ นักลงทุนคงจะจับตาการรายงานอัตราเงินเฟ้อเดือนก.ค.ของไทยโดยกระทรวงพาณิชย์ในช่วงต้นสัปดาห์อีกด้วย ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในเดือนก.ค. น่าจะมีโอกาสขยับขึ้นไปอยู่ที่ 2.7% จาก 2.55% ในเดือนมิ.ย.
อนึ่ง ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทแข็งค่าทดสอบระดับ 29.75 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยเงินบาทแข็งค่าในช่วงต้นสัปดาห์เช่นเดียวกับทิศทางเงินเอเชียอื่นๆ และเงินยูโร ท่ามกลางแรงเทขายเงินดอลลาร์ฯ จากความกังวลเรื่องวิกฤตหนี้และโอกาสการผิดนัดชำระหนี้ของสหรัฐฯ นอกจากนี้ เงินบาทยังมีแรงหนุนเพิ่มเติมจากแรงขายเงินดอลลาร์ฯ ที่มาจากกลุ่มผู้ค้าทองคำอีกด้วย
อย่างไรก็ดี เงินบาททยอยลดช่วงบวกลง โดยถูกกดดันจากแรงซื้อเงินดอลลาร์ฯ ของกลุ่มผู้นำเข้า การชะลอสถานะซื้อสุทธิหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติ รวมถึงแรงซื้อเงินดอลลาร์ฯ ซึ่งตลาดคาดว่ามาจากการเข้าดูแลเสถียรภาพค่าเงินของธปท. โดยในวันศุกร์ (29 ก.ค.) เงินบาทปรับตัวอยู่ที่ระดับ 29.80 จากระดับ 29.77 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (22 ก.ค.)