World Marketsสรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ข่าวต่างประเทศ Monday August 1, 2011 06:01 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเป็นวันที่หกติดต่อกันเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (29 ก.ค.) ส่งให้ตลาดวอลล์สตรีทปิดท้ายสัปดาห์อย่างไม่สดใสด้วยการร่วงลงมากที่สุดในรอบประมาณหนึ่งปี เนื่องจากมีหลักฐานบ่งชี้มากขึ้นว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอ่อนแอลงมาก หลังจากที่รัฐบาลสหรัฐเปิดเผยอัตราการขยายตัวที่น้อยเกินคาดของจีดีพีในไตรมาสสอง และการที่การเจรจาปรับเพิ่มเพดานหนี้ยังไม่คืบหน้า แม้กำหนดเส้นตายผิดนัดชำระหนี้ของรัฐบาลสหรัฐกำลังใกล้เข้ามาทุกขณะ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 96.87 จุด หรือ 0.79% แตะที่ 12,143.24 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดลบต่อเนื่องเป็นวันที่ห้าที่ 8.39 จุด หรือ 0.65% แตะ 1,292.28 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดลบ 9.87 จุด หรือ 0.36% แตะที่ 2,756.38 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (29 ก.ค.) หลังจากที่รัฐบาลสหรัฐเปิดเผยอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอ และความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ กระตุ้นให้นักลงทุนพากันหลีกเลี่ยงความเสี่ยง

สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.ย.ปิดลดลง 1.74 ดอลลาร์ หรือ 1.79% แตะที่ 95.70 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นราคาปิดต่ำสุดนับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนก.ค. หลังจากเคลื่อนไหวระหว่าง 94.95 - 97.39 ดอลลาร์ โดยตลอดสัปดาห์ สัญญาร่วงลง 4.17 ดอลลาร์ หรือ 4.18% หลังจากที่ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องมาสี่สัปดาห์

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กดีดขึ้นปิดเหนือระดับ 1,630 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (29 ก.ค.) เนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากที่รัฐบาลสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ประกอบกับภาวะชะงักงันในการเจรจาปรับเพิ่มเพดานหนี้ของประเทศ แม้กำหนดเส้นตายที่รัฐบาลสหรัฐจะผิดนัดชำระหนี้กำลังงวดเข้ามา

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 15 ดอลลาร์ หรือ 0.9% ปิดที่ 1,631.2 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยราคาทองคำพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดระดับใหม่ในระหว่างวันที่ 1,637.50 ดอลลาร์

-- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (29 ก.ค.) หลังจากที่รัฐบาลสหรัฐเปิดเผยอัตราขยายตัวของเศรษฐกิจไตรมาส 2/2554 ที่ขยายตัวเพียง 1.3% ซึ่งน้อยกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์และนักลงทุนคาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังถูกกดดันจากแรงขาย เนื่องจากความไม่คืบหน้าในการเจรจาปรับเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลสหรัฐ ขณะที่กำหนดเส้นตายที่สหรัฐจะผิดนัดชำระหนี้กำลังใกล้เข้ามา ซึ่งอาจทำให้สหรัฐเสี่ยงที่จะถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือด้วย

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 1.11% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 76.890 เยน จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 77.750 เยน และร่วงลง 1.76% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.7875 ฟรังค์ จากระดับ 0.8016 ฟรังค์ แต่แข็งค่าขึ้น 0.72% เมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ 0.9555 ดอลลาร์แคนาดา จาก 0.9487

ค่าเงินยูโรดีดตัว 0.29% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.4370 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.4329 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ค่าเงินปอนด์แข็งค่าขึ้น 0.26% เมื่อเที่ยบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.6415 จากระดับ 1.6373 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 0.16% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0985 จากระดับ 1.1003 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.90% ที่ 0.8786 ดอลลาร์ จาก 0.8708 ดอลลาร์

-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (29 ก.ค.) โดยได้รับปัจจัยกดดันจากสถานการณ์ความเคลื่อนไหวในสหรัฐ หลังจากที่รัฐบาลสหรัฐรายงานอัตราขยายตัวทางเศรษฐกิจที่น้อยกว่าคาดการณ์ในไตรมาสสอง และเนื่องจากพรรครีพับลิกันไม่สามารถรวบรวมเสียงภายในพรรคให้สนับสนุนแผนการปรับเพิ่มเพดานหนี้ของประเทศได้

ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวลง 58.02 จุด หรือ 0.99% แตะที่ 5,815.19 จุด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ