ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (1 ส.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตที่ชะลอตัวลงในเดือนก.ค. อย่างไรก็ตาม ดัชนีดาวโจนส์ทะยานขึ้นแข็งแกร่งในระหว่างวัน ก่อนที่จะปิดลดลงเพียงเล็กน้อย เนื่องจากตลาดได้แรงหนุนจากความคาดหวังที่ว่าสภาคองเกรสจะผ่านร่างกฎหมายการปรับเพิ่มเพดานหนี้ได้ก่อนวันที่ 2 ส.ค. ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 10.75 จุด หรือ 0.09% แตะที่ 12,132.49 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดลบ 5.34 จุด หรือ 0.41% แตะที่ 1,286.94 จุด ดัชนี Nasdaq ปิดลบ 11.77 จุด หรือ 0.43% แตะที่ 2,744.61 จุด
-- สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (1 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในสหรัฐและจีน หลังจากมีข้อมูลบ่งชี้ว่าภาคการผลิตของสหรัฐและจีนชะลอตัวลงอย่างมากในเดือนก.ค. นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูการรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ ซึ่งสำนักงานสารนิเทศด้านพลังงานของรัฐบาลสหรัฐจะเปิดเผยในวันพุธนี้
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.ย.ปิดลบ 81 เซนต์ หรือ 0.85% แตะที่ 94.89 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 98.57-93.42 ดอลลาร์
-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กดีดขึ้นปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (1 ส.ค.) หลังจากผู้นำพรรครีพับลิกันและเดโมแครตบรรลุข้อตกลงการปรับเพิ่มเพดานหนี้และการลดยอดขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลกลางสหรัฐ ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย อย่างไรก็ตาม สัญญาทองคำสามารถไต่ขึ้นจากระดับต่ำสุดของวันได้ เนื่องจากนักลงทุนบางกลุ่มยังคงเข้าซื้อทองคำหลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตที่ชะลอตัวลง
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 9.5 ดอลลาร์ หรือ 0.6% ปิดที่ 1,621.7 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1630.0-1620.2 ดอลลาร์
-- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับยูโรและสกุลเงินอื่นๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (1 ส.ค.) หลังจากประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐ ประกาศว่าผู้นำพรรครีพับลิกันและเดโมแครตได้บรรลุข้อตกลงการปรับเพิ่มเพดานหนี้และการลดยอดขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลกลางสหรัฐ ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนคาดหวังว่าแผนการปรับเพิ่มเพดานหนี้จะผ่านความเห็นชอบจากสภาคองเกรสในเร็วๆนี้
ค่าเงินยูโรร่วงลง 1.04% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.4246 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.4395 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ร่วงลง 0.77% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.6291 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6418 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.69% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 77.260 เยน จากระดับ 76.730 เยน แต่อ่อนตัวลง 0.27% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.7831 ฟรังค์ จากระดับ 0.7852 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนตัวลง 0.17% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0969 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0988 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์อ่อนตัวลง 0.30% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8760 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8786 ดอลลาร์สหรัฐ
-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (1 ส.ค.) ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกัน 2 วันทำการ หลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตที่ชะลอตัวลงในเดือนก.ค. ซึ่งข้อมูลดังกล่าวได้บดบังปัจจัยบวกจากรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งของเอชเอสบีซี โฮลดิ่งส์
ดัชนี FTSE 100 ร่วงลง 40.76 จุด หรือ 0.7% ปิดที่ 5,774.43 จุด