นางสาวผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (คต.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการนำคณะนักธุรกิจผู้ประกอบยางพาราและไม้ยางพาราแปรรูปจังหวัดตรังไปเจรจาเปิดตลาดยางและไม้ยางพาราที่ประเทศอินเดียใน 3 เมืองใหญ่คือ เมืองเจนไน กรุงนิวเดลี และเมือง กัลกัตตา ว่า ประสบความสำเร็จเกินความคาดหมาย ผู้จัดจำหน่ายไม้ชั้นนำและโรงงานเฟอร์นิเจอร์ยักษ์ใหญ่ของอินเดียต่างสนใจสั่งซื้อไม้ยางไทยโดยเฉพาะไม้ยางพาราแปรรูป เช่น ไม้พื้น ไม้แปรรูปอบแห้ง ไม้ปาร์เก้ เป็นต้น
นอกจากนี้โรงแรมระดับ 5 ดาวของเมืองเจนไนยังสนใจซื้อเฟอร์นิเจอร์และไม้ปาร์เก้สำหรับตกแต่งห้องพักกว่า 300 ห้อง ขณะเดียวกันยางพาราก็ได้รับการตอบรับดีเยี่ยมเช่นกัน โดยบริษัทผลิตยางรถยนต์ชั้นนำของอินเดีย เช่น TVS DRC, JK Tyes และ Sterling ต่างสนใจยางแผ่นของไทยเพื่อป้อนสายการผลิตในโรงงานของตน นอกจากนี้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมรองเท้าของเมืองกัลกัตตายังสนใจที่จะมาร่วมลงทุนยังแหล่งผลิตยางพาราที่ภาคใต้ด้วย
ความต้องการยางพาราและไม้ยางพาราแปรรูปในอินเดียมีสูงมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมยานยนต์ของอินเดียมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเมืองขนาดใหญ่ที่มีประชากรเกิน 10 ล้านคน เช่น เมืองเจนไนถือเป็นตลาดที่สำคัญที่ไม่ควรมองข้าม โดยการผลิตรถยนต์ของเมืองเจนไนคิดเป็นร้อยละ 30 ของการผลิตรถยนต์ทั้งหมดของอินเดีย ในขณะที่ผลผลิตยางพาราในอินเดียมีไม่เพียงพอ
นอกจากนี้ ตลาดเฟอร์นิเจอร์ของอินเดียก็เป็นตลาดขนาดใหญ่มีความต้องการสินค้าประเภทนี้เพิ่มขึ้นอย่างมาก เนื่องจากคนอินเดียซึ่งมีกำลังซื้อสูงมีถึงร้อยละ 10 ของประชากรทั้งหมดหรือประมาณ 120 ล้านคนจากประชากรทั้งหมด 1,200 ล้านคน
ปัจจุบันการส่งออกไม้ยางพาราแปรรูปของไทยร้อยละ 95 ส่งออกไปประเทศจีน ซึ่งเป็นการพึ่งพาตลาดหลักเพียงตลาดเดียว จึงมีความจำเป็นต้องหาตลาดใหม่ๆ รองรับเพื่อลดความเสี่ยง หากประเทศคู่ค้าหลักชะลอหรือหยุดการสั่งซื้อ นอกจากนี้ประเทศอินเดียยังเป็นตลาดใหญ่ที่มีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในระดับสูงจึงสามารถรองรับสินค้าดังกล่าวจากไทยได้เป็นอย่างดี