นายกรัฐมนตรีลี เซียน ลุงของสิงคโปร์ ยืนยันจะไม่เปลี่ยนแปลงแนวทางเศรษฐกิจของประเทศ แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงทางด้านการเมืองหลังจากที่สิงคโปร์ได้จัดการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อไม่นานมานี้ก็ตาม
สำนักข่าวซินหัวอ้างรายงานจากหนังสือพิมพ์สเตรทไทม์สของสิงคโปร์ว่า นายลีกล่าวขณะเข้าร่วมงานเลี้ยงฉลองครบรอบ 50 ปีคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจ (อีดีบี) เมื่อช่วงค่ำวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า รัฐบาลจะยังคงใช้มาตรการระยะยาวซึ่งยึดหลักเหตุผลไว้ และสิงคโปร์จะเปิดประตูต้อนรับบุคลากรฝีมือดีและการลงทุนจากทั่วโลกต่อไป
นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ยังกล่าวด้วยว่า ข้อจำกัดโดยพื้นฐานของประเทศจะยังคงอยู่ ในขณะที่สิงคโปร์เองก็จำเป็นต้องติดต่อกับโลกภายนอกเพื่อความอยู่รอด
ตลอดระยะเวลา 50 ปีที่ผ่านมา สิงคโปร์ลบล้างข้อกังขาต่างๆนานาและสามารถแปลงโฉมเศรษฐกิจของประเทศจนสามารถพาประเทศขยับจากกลุ่มประเทศโลกที่ 3 ขึ้นมาเกาะกลุ่มหัวแถว ขณะที่ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือจีดีพี ต่อหัวอยู่ที่ 6 หมื่นดอลลาร์สิงคโปร์ สูงกว่ามูลค่าจริงในปี 2504 ถึง 13 เท่าตัว
"ผมคิดว่า ความมั่นใจของนักลงทุนจะกลับมาเมื่อได้ยินข้อความนี้ เพราะเราจริงจังกับคำพูดและข้อผูกมัดของเรา แต่พวกเขาจะยังต้องรอดูต่อไปว่า จริงๆแล้วเราทำอะไรบ้าง และเมื่อเวลาผ่านไปหากพวกเขาเห็นว่า ไม่ต้อนรับเราเหมือนแต่ก่อน หรือหากสภาพแวดล้อมทางธุรกิจของเราน่าสนใจน้อยลง เมื่อนั้นจะมีผลกระทบต่อสิงคโปร์อย่างแน่นอน" นายลีกล่าว
นายลียังได้เรียกร้องให้มีการสนับสนุนนโยบายระยะยาว ซึ่งยึดหลักเหตุผลเพื่อการสร้างงานและความมั่งคั่งอีกด้วย
นายกฯสิงคโปร์กล่าวว่า ไม่เคยมีใครคาดคิดว่าสิงคโปร์จะพัฒนาได้ไกลขนาดนี้ตลอดระยะเวลา 50 ปีที่ผ่านมา และการคาดการณ์ถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอีก 50 ปีข้างหน้านั้น ก็เป็นเรื่องที่ทำได้ยากเช่นกัน