สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติด้วยคะแนนเสียง 269 ต่อ 161 ผ่านร่างกฎหมายการปรับเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลกลางสหรัฐ ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็นการปูทางในอีกขั้นตอนหนึ่งที่จะช่วยให้สหรัฐสามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ได้
-- สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตเดือนก.ค.ของสหรัฐขยายตัวที่ระดับ 50.9 จุด ซึ่งชะลอตัวลงอย่างมากเมื่อเทียบกับเดือนมิ.ย.ที่ขยายตัว 55.3 จุด และลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 54.9 จุด
-- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างในเดือนมิ.ย.อยู่ที่ระดับ 7.723 แสนล้านดอลลาร์ต่อปี เพิ่มขึ้น 0.2% จากเดือนพ.ค.ที่ระดับ 7.705 แสนล้านดอลลาร์ต่อปี
-- ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) เปิดเผยว่า ฐานเงิน (monetary base) หรือปริมาณธนบัตรและเหรียญกษาปณ์ที่หมุนเวียนอยู่ในมือประชาชนและธนาคารพาณิชย์ รวมทั้งเงินฝากที่สถาบันการเงินสำรองไว้กับธนาคารกลางประจำเดือนก.ค. 2554 พุ่งขึ้น 15% แตะระดับ 113.73 ล้านล้านเยน ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 35 เนื่องจากบีโอเจอัดฉีดเงินจำนวนมากเข้าสู่ระบบการเงิน เพื่อบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจหลังจากเกิดแผ่นดินไหวและสึนามิเมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา
-- ธนาคารกลางเกาหลีใต้เปิดเผยว่า ทุนสำรองเงินต่างประเทศของเกาหลีใต้ในเดือนก.ค.พุ่งทำนิวไฮที่ระดับ 3.1103 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากมูลค่าการแปลงสภาพสินทรัพย์ที่ไม่ใช่สกุลเงินดอลลาร์ปรับตัวสูงขึ้น
-- หนังสือพิมพ์เซี่ยงไฮ้ ซิเคียวริตีส์ นิวส์ รายงานโดยอ้างการคาดการณ์ของสถาบันการเงินหลายแห่งว่า ยอดการปล่อยเงินกู้ใหม่สกุลเงินหยวนของธนาคารพาณิชย์จีนจะอยู่ที่ระดับ 5.50 แสนล้านเยนในเดือนก.ค. พร้อมกับคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางจีนจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนส.ค. เนื่องจากแรงกดดันด้านเงินเฟ้ออยู่ในระดับที่สูงมาก
-- สมาคมเหล็กและเหล็กกล้าจีน (CISA) วางแผนที่จะเปิดตัวดัชนีราคาสินแร่เหล็กอย่างเป็นทางการในเดือนต.ค.นี้ โดยจะมีการรายงานเป็นรายสัปดาห์ และทางสมาคมจะทดลองใช้ดัชนีราคาดังกล่าวในเดือนส.ค.นี้
-- นายโยชิฮิโกะ โนดะ รัฐมนตรีกระทรวงคลังญี่ปุ่น เตือนว่า ตลาดปริวรรตเงินตราประเมินค่าเงินเยนสูงเกินไป พร้อมกับปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเรื่องความเป็นไปได้ที่ญี่ปุ่นจะเข้าไปแทรกแซงเพื่อทำให้เงินเยนอ่อนค่าลง และปกป้องธุรกิจภายในประเทศ
-- กระทรวงสาธารณสุข สวัสดิการสังคม และ แรงงาน ของญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ค่าจ้างเฉลี่ยของญี่ปุ่นปรับตัวลดลง 0.8% ในเดือนมิถุนายน เมื่อเทียบกับปีก่อน สู่ระดับ 435,353 เยน หลังจากที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในเดือนพฤษภาคม เนื่องจากการชะลอจ่ายโบนัส
-- นายดูฟวูรี ซับบาราว ผู้ว่าการธนาคารกลางอินเดีย กล่าวว่า อินเดียจำเป็นต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ เพื่อให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจในระยะกลางให้เป็นไปอย่างยั่งยืน แม้ว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงนี้จะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจก็ตาม
-- นายกรัฐมนตรีลี เซียน ลุงของสิงคโปร์ ยืนยันจะไม่เปลี่ยนแปลงแนวทางเศรษฐกิจของประเทศ แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงทางด้านการเมืองหลังจากที่สิงคโปร์ได้จัดการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อไม่นานมานี้ก็ตาม
-- กระทรวงอุตสาหกรรมญี่ปุ่นเปิดเผยว่า กลุ่มผู้ผลิตของญี่ปุ่นได้รับแรงกดดันมากขึ้นจากสกุลเงินเยนที่แข็งค่าขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ นอกจากนี้ กลุ่มผู้ผลิตยังได้รับผลกระทบจากภาวะขาดแคลนพลังงานด้วย
-- ธนาคารกลางออสเตรเลียมีมติคงอัตราดอกเบี้ย 4.75% ในการประชุมวันนี้ (2 ส.ค.) แม้ว่าเงินเฟ้อจะยังคงอยู่ในระดับสูง
-- บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป เปิดเผยว่า กำไรสุทธิของกลุ่มในช่วงเดือนเม.ย.-มิ.ย.ร่วงลง 99.4% จากระดับปีที่แล้ว แตะ 1.16 พันล้านเยน เนื่องจากการผลิตที่ตกลง อันเป็นผลมาจากเหตุแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา
-- สมาคมอาหารเวียดนาม (VFA) เปิดเผยว่า เวียดนามส่งออกข้าว 636,344 ตันในเดือนกรกฎาคม คิดเป็นมูลค่ากว่า 305 ล้านดอลลาร์ โดย 50% ของยอดส่งออกดังกล่าวเป็นการส่งออกไปยังตลาดเอเชีย
-- คิริน โฮลดิงส์ กลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของชินคาเรียล กรุ๊ป บริษัทผู้ผลิตเบียร์ของบราซิล หลังเข้าซื้อหุ้นมูลค่า 3.95 พันล้านเรียลบราซิล หรือเกือบ 1.99 แสนล้านเยนในวันนี้
-- สมาคมจัดการประชุมและสัมมนานานาชาติ (ICCA) เปิดเผยว่า สิงคโปร์ยังครองตำแหน่งเมืองที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับจัดการประชุมในเอเชีย และยังคงติดอับดับเมืองยอดนิยมสำหรับจัดการประชุม 1 ใน 5 ของโลก ร่วมกับเวียนนา บาร์เซโลนา ปารีส และเบอร์ลิน
-- สายการบินอย่างน้อย 11 แห่งในประเทศจีน ซึ่งรวมถึงแอร์ไชน่า, ไชน่า อีสเทิร์น แอร์ไลน์ และไชน่า เซาเทิร์น แอร์ไลน์ พากันปรับเพิ่มค่าธรรมเนียมน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเที่ยวบินภายในประเทศที่มีระยะทางมากกว่า 800 กิโลเมตร จากเดิม 140 หยวน/คน เป็น 150 หยวน/คน โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
-- วุฒิสภาสหรัฐจะลงมติร่างกฎหมายปรับเพิ่มเพดานหนี้ในเวลา 23.00 น.ตามเวลาประเทศไทยในวันนี้ หลังจากที่สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้ลงมติด้วยคะแนนเสียง 269 ต่อ 161 ผ่านร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวในช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาไทย โดยร่างกฎหมายระบุให้มีการปรับเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลกลางสหรัฐขึ้นอีกอย่างน้อย 2.1 ล้านล้านดอลลาร์ และรัฐบาลจะต้องลดการใช้จ่ายลง 2.4 ล้านล้านดอลลาร์ในระยะเวลา 10 ปี