นักวิเคราะห์ในตลาดคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) จะตัดสินใจผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่เผชิญแรงกดดันจากภาวะชะลอตัวอย่างหนักอันเนื่องมากจากภัยพิบัติที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนมี.ค. รวมถึงแรงกดดันจากการแข็งค่าของเงินเยน
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า บีโอเจประกาศลดระยะเวลาการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายที่มีกำหนดการประชุมเดิมเป็นเวลา 2 วันให้เหลือเพียงวันเดียวในวันนี้ หลังจากที่รัฐบาลเข้าแทรกแซงตลาดเงิน เพื่อสกัดค่าเงินเยนและแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับกลุ่มผู้ส่งออกของญี่ปุ่น
หลายฝ่ายคาดว่า สมาชิกคณะกรรมการกำหนดนโยบายของบีโอเจ 9 ราย จะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 0-0.1% พร้อมขยายขอบเขตโครงการซื้อสินทรัพย์ 40 ล้านล้านเยน โดยมีเป้าหมายที่จะผ่อนคลายเงื่อนไขด้านการออกสินเชื่อด้วยการซื้อสินทรัพย์ทางการเงินเช่น พันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้ และกองทุนอีทีเอฟ (exchange-traded fund)
โดยในเช้าวันนี้ กระทรวงการคลังญี่ปุ่นและบีโอเจได้เข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราด้วยการเทขายสกุลเงินเยนออกมาเป็นจำนวนมาก เพื่อสกัดการแข็งค่าของเงินเยนเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐและสกุลเงินสำคัญอื่นๆ
ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นทำให้มีกระแสคาดการณ์ในตลาดมากขึ้นว่า เจ้าหน้าที่ด้านการเงินของญี่ปุ่นจะร่วมมือกันนำพาประเทศให้หลุดพ้นจากภาวะชะลอตัว หลังเกิดแผ่นดินไหวและสึนามิเมื่อวันที่ 11 มี.ค. และจะแก้ปัญหาเงินเยนที่รัฐบาลมองว่า แกว่งตัวจากการเก็งกำไรและผันผวน ซึ่งบั่นทอนความสามารถด้านการแข่งขันในกลุ่มผู้ส่งออกของญี่ปุ่น