ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ทรุดฮวบลง 512.76 จุด หรือ 4.31% ปิดที่ 11,383.68 จุด ดัชนี S&P 500 ดิ่งลง 60.27 จุด หรือ 4.78% ปิดที่ 1,200.07 จุด และดัชนี Nasdaq ร่วงลง 136.68 จุด หรือ 5.08% ปิดที่ 2,556.39 จุด
-- สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือนเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่า วิกฤตหนี้ยุโรปและความเป็นไปได้ที่สหรัฐจะเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยรอบใหม่นั้น จะส่งผลให้ความต้องการพลังงานหดตัวลงอย่างหนัก
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.ย.ร่วงลง 5.30 ดอลลาร์ หรือ 5.77% ปิดที่ 86.63 ดอลลาร์/บาร์เรล
-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) เนื่องจากการร่วงลงอย่างหนักของตลาดหุ้นนิวยอร์กและตลาดหุ้นอื่นๆ ได้กดดันให้นักลงทุนเททองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่สามารถทำกำไรได้ดี ซึ่งการร่วงลงของตลาดหุ้นเป็นผลมาจากกระแสความวิตกกังวลที่ว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจจะเข้าสู่ภาวะถดถอยครั้งใหม่ และวิกฤตหนี้อาจจะลุกลามไปทั่วยุโรป
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 7.3 ดอลลาร์ หรือ 0.4% ปิดที่ 1,659 ดอลลาร์/ออนซ์
-- ค่าเงินเยนร่วงลงอย่างหนักเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) หลังจากรัฐบาลญี่ปุ่นตัดสินใจแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราด้วยการทุบขายเงินเยนและทุ่มซื้อดอลลาร์ โดยมีเป้าหมายที่จะยับยั้งการแข็งค่าของเงินเยน ขณะที่ค่าเงินยูโรร่วงลงเนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการลุกลามของปัญหาหนี้ยุโรป
ค่าเงินยูโรร่วงลง 1.56% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.4101 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4325 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ร่วงลง 1.07% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.6255 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6431 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินเยนดิ่งลง 2.65% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 79.080 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับ 77.040 เยนต่อดอลลาร์ ขณะที่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง 0.25% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.7674 ฟรังค์ จากระดับ 0.7693 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 2.76% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ออสเตรเลียที่ระดับ 1.0467 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0764 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ดิ่งลง 3.31% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8355 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8641 ดอลลาร์สหรัฐ
-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงหนักสุดในรอบกว่า 2 ปีเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่าเศรษฐกิจทั่วโลกอาจชะลอตัวลงเนื่องความเป็นไปได้ที่ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอยครั้งใหม่ และวิกฤตหนี้อาจจะลุกลามไปทั่วยุโรป
ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 191.37 จุด หรือ 3.4% แตะที่ 5,393.14 จุด